Logo
หน้าหลัก     บทความ     Shooting star candlestick

ฟอเร็กซ์

แพทเทิร์นแท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) : คืออะไรและวิธีการเทรดให้ได้ผล

เขียนโดย XS Editorial Team

อัปเดตแล้ว 14 มีนาคม 2025

แพทเทิร์นแท่งเทียนดาวตก
สารบัญ

    รูปแบบแท่งเทียนดาวตก Shooting Star เป็นแท่งเทียนกลับตัวขาลงตามหลักการของแท่งเทียนญี่ปุ่น

    สัญญาณนี้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการกลับตัวของแนวโน้มซึ่งหากนักเทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อาจสร้างโอกาสทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    บทความนี้จะอธิบายวิธีการระบุรูปแบบแท่งเทียนดาวตกและแนวทางการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ

    สาระสำคัญ

    • แท่งเทียนดาวตกเป็นรูปแบบกลับตัวขาลงและเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในเชิงวิเคราะห์ทางเทคนิค

    • รูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อแนวโน้มตลาดเปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลงซึ่งจะส่งสัญญาณว่าอาจเกิดการลดลงของราคา

    • โครงสร้างของแท่งเทียนดาวตกประกอบด้วยตัวแท่งขนาดเล็กที่อยู่ใกล้จุดต่ำสุดของช่วงการซื้อขาย มีไส้เทียนด้านบนยาวและมีไส้เทียนล่างเล็กน้อยหรือไม่มีเลย

    ทอลองใช้บัญชีเดโม่โดยไม่มีความเสี่ยง

    ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

    เปิดบัญชีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    รูปแบบแท่งเทียนดาวตกคืออะไร?

    แท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงและถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค

    รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงเป็นลักษณะของกราฟที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่แนวโน้มขาขึ้นอาจเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง

    รูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยนจากภาวะกระทิง (Bullish) ไปเป็นภาวะหมี (Bearish) ซึ่งหมายความว่าราคาที่เคยปรับตัวสูงขึ้นอาจเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวลดลง

     

    โครงสร้างของรูปแบบแท่งเทียนดาวตก

    รูปแบบแท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) ได้รับการตั้งชื่อตามลักษณะที่คล้ายกับดาวตกโครงสร้างของแท่งเทียนนี้มีเอกลักษณ์และสามารถสังเกตได้ง่ายโดยประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่:

    1. ตัวแท่งเทียนขนาดเล็ก: ตัวแท่งเทียนมีขนาดเล็กและอยู่ใกล้กับราคาต่ำสุดของช่วงการซื้อขายแสดงให้เห็นว่าระหว่างราคาเปิดและปิดมีความแตกต่างกันน้อย

    2. ไส้เทียนบนยาว: ไส้เทียนด้านบนยาวอย่างน้อย 2 เท่าของตัวแท่งเทียนแสดงให้เห็นว่าระหว่างเซสชันราคาเคยพุ่งขึ้นสูงแต่สุดท้ายกลับปรับตัวลงมาใกล้ระดับราคาเปิด

    3. ไม่มีไส้เทียนล่างหรือมีขนาดเล็กมาก: ไส้เทียนล่างมีขนาดเล็กมากหรือแทบไม่มีเลย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างฝั่งซื้อและฝั่งขาย

    รูปแบบนี้บ่งบอกว่าแม้ฝั่งซื้อ (Bulls) จะพยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่แรงขาย (Bears) กลับเข้ามากดดันทำให้ราคาลดลงใกล้กับระดับเปิดของเซสชั่นซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับตัวลง (Bearish Reversal)

     

    แพทเทิร์นดาวตกเกิดขึ้นเมื่อใด?

    รูปแบบแท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) มักเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นและเป็นสัญญาณเตือนถึง โอกาสในการกลับตัวลง

    รูปแบบนี้ปรากฏขึ้นเมื่อราคาเปิดตลาดปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่จากนั้นถูกแรงขายกดดันให้ร่วงลงมาปิดใกล้กับราคาเปิดซึ่งบ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนกำลังลง

    แท่งเทียนดาวตกประสิทธิภาพมากขึ้นหากเกิดขึ้นหลังจากชุดแท่งเทียนขาขึ้นต่อเนื่องเนื่องจากเป็นสัญญาณว่าการเคลื่อนไหวขาขึ้นเริ่มอ่อนแรงและมีโอกาสที่ตลาดจะกลับตัวลง

    สำหรับนักเทรดเดอร์รูปแบบดาวตกเป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่ช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มตลาด ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์การกลับตัวเป็นขาลง

     

    ตัวอย่างรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

    เพื่อให้เข้าใจแท่งเทียน Shooting Star ได้ชัดเจนขึ้นลองพิจารณาหุ้นที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

    ตัวอย่างเช่น: หุ้นเปิดที่ $100 ปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ $110 ในระหว่างเซสชันการซื้อขายแต่สุดท้ายปิดที่ $102

    แท่งเทียนที่เกิดขึ้นจะมีตัวแท่งเล็กอยู่ใกล้ระดับราคาต่ำสุดของวันและมีไส้เทียนบนยาวสะท้อนถึงแรงซื้อที่พยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่ถูกแรงขายกดดันให้ราคาลดลงใกล้จุดเปิดกลายเป็นรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง

     

    Shooting Star Candlestick vs. รูปแบบแท่งเทียนอื่นๆ

    เมื่อต้องการทำความเข้าใจการกลับตัวของตลาดแท่งเทียน Shooting Star ไม่ใช่เพียงรูปแบบเดียวที่ควรจับตามองรูปแบบแท่งเทียนอื่นๆ เช่น Doji และ Hanging Man มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันแต่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน

     

    Shooting Star vs. Inverted Hammer

    แม้ว่าแท่งเทียน Shooting Star จะเป็นสัญญาณการกลับตัวลงแต่สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะความแตกต่างจาก Inverted Hammer ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้น

    Inverted Hammer ปรากฏที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงและมีลักษณะคล้ายกับ Shooting Star โดยมีตัวแท่งขนาดเล็กและไส้เทียนบนยาว อย่างไรก็ตามความแตกต่างหลักอยู่ที่ตำแหน่งภายในแนวโน้ม

    • Shooting Star เป็นสัญญาณว่าตลาดอาจกลับตัวลง แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มอ่อนแรงหลังจากแนวโน้มขาขึ้น

    • Inverted Hammer เป็นสัญญาณว่าตลาดอาจกลับตัวขึ้น บ่งชี้ว่าแรงขายกำลังอ่อนลงและมีโอกาสเกิดแนวโน้มขาขึ้นใหม่

     

    Shooting Star vs. Doji

    แม้ว่า Shooting Star และ Doji อาจดูคล้ายกันในแวบแรกแต่ความหมายของทั้งสองรูปแบบนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

    Doji เป็นสัญญาณของความไม่แน่นอนในตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงซื้อและแรงขายมีอิทธิพลเท่าเทียมกันไม่มีฝั่งใดควบคุมตลาดได้อย่างชัดเจน ขณะที่ Shooting Star บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของอำนาจในตลาดอย่างชัดเจน โดยฝั่งกระทิง (Bulls) เริ่มสูญเสียการควบคุม และอาจเป็นสัญญาณของ การกลับตัวลง

    โดยสรุป Doji สะท้อนถึงความลังเลของตลาดในขณะที่ Shooting Star บ่งบอกถึงการสูญเสียโมเมนตัมของแนวโน้มขาขึ้น

     

    Shooting Star vs. Hanging Man

    Shooting Star และ Hanging Man มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นรูปแบบเดียวกันเนื่องจากทั้งคู่มักปรากฏที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตามความแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่โครงสร้างของแท่งเทียน

    Shooting Star มีไส้เทียนบนยาว ซึ่งบ่งบอกว่าแรงซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่ไม่สำเร็จและสุดท้ายราคาถูกกดลงใกล้ระดับเปิด

    Hanging Man มีไส้เทียนล่างยาวซึ่งหมายความว่าแรงขายเข้ามากดราคาลงในระหว่างเซสชันแต่ฝั่งซื้อสามารถดึงราคากลับขึ้นมาได้ก่อนปิดตลาด

    แม้ว่าทั้งสองรูปแบบจะเป็นสัญญาณการกลับตัวลงแต่กระบวนการเกิดสัญญาณของแต่ละแท่งมีความแตกต่างกัน

     

    วิธีเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

    การเทรดด้วยแท่งเทียน Shooting Star ซึ่งเป็นสัญญาณกลับตัวขาลงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสัญญาณ

    ต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญในการเทรดด้วยรูปแบบ Shooting Star:

    1. ยืนยันสัญญาณ: การยืนยันรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นสิ่งสำคัญก่อนดำเนินการซื้อขาย รอให้แท่งเทียนถัดไปปิดต่ำลงเพื่อยืนยันสัญญาณกลับตัวขาลงคุณยังสามารถใช้ชีทช่วยจำสรุปข้อมูลแท่งเทียน (Cheat Sheet) เป็นตัวช่วยในการระบุรูปแบบแท่งเทียนทั้งหมดได้โดยตรงเพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาณที่เกิดขึ้นมีความถูกต้องและแม่นยำ

    2. ยืนยันสัญญาณ: การยืนยันรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นสิ่งสำคัญก่อนดำเนินการใดๆ รอให้แท่งเทียนถัดไปปิดต่ำลงเพื่อยืนยันสัญญาณกลับตัวขาลง (Bearish Reversal)

    3. วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นในวันที่เกิดแท่งเทียน Shooting Star หรือในวันที่ได้รับการยืนยันสัญญาณกลับตัวช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสัญญาณขาลง ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของนักลงทุนจำนวนมากซึ่งช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของรูปแบบแท่งเทียนนี้

    4. เข้าออเดอร์เทรด: เมื่อได้รับการยืนยันสัญญาณแล้วให้ทำการเปิดคำสั่งขาย (Sell Order) คำสั่งขายคือคำสั่งที่ส่งไปยังโบรกเกอร์เพื่อขายสินทรัพย์ในปริมาณที่กำหนดตามราคาที่กำหนดหรือราคาตลาด ในบริบทของการเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star การเปิดคำสั่งขายหมายถึงการเข้าสู่สถานะขายเพราะคาดว่าราคาจะปรับตัวลงหลังจากสัญญาณกลับตัวขาลงได้รับการยืนยัน

    5. ตั้งค่าจุดหยุดขาดทุน: เพื่อบริหารความเสี่ยงให้ตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss Order) ไว้เหนือระดับสูงสุดของแท่งเทียน Shooting Starการเว้นระยะ Stop-Loss ในระดับนี้ช่วยป้องกันสถานะของคุณหากราคามีการเคลื่อนไหวสวนทางชั่วคราวก่อนกลับสู่แนวโน้มขาลงตามที่คาดการณ์

    6. กำหนดเป้าหมายกำไร: ตั้งเป้าหมายกำไร (Take-Profit) โดยพิจารณาจากแนวรับสำคัญหรือใช้ อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio) ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรและบริหารความเสี่ยงในการเทรด

    เฝ้าติดตามสภาวะตลาดโดยรวมและข่าวสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา
    ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมตามสถานการณ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสูงสุด

     

    วิธีตั้งค่าคำสั่งหยุดขาดทุนในการเทรดด้วย Shooting Star

    การตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss) เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องเงินทุนในการเทรดกลยุทธ์ทั่วไปคือการวาง Stop-Loss เหนือระดับสูงสุดของแท่งเทียน Shooting Star

    ระดับนี้ทำหน้าที่เป็นจุดกันชน (Buffer) ในกรณีที่ราคามีการเคลื่อนไหวสวนทางชั่วคราวก่อนที่แนวโน้มขาลงจะกลับมาดำเนินต่อ

    โดยการวาง Stop-Loss ที่ระดับนี้ช่วยจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในขณะเดียวกันก็ให้พื้นที่เพียงพอสำหรับราคาที่จะเคลื่อนไหวไปตามแนวโน้มที่คาดการณ์ไว้

     

    วิธีตั้งเป้าหมายกำไรในการเทรดด้วย Shooting Star

    การตั้งเป้าหมายกำไร (Profit Target) เป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การเทรดที่ประสบความสำเร็จเมื่อลงทุนโดยใช้รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป้าหมายกำไรสามารถกำหนดได้จากแนวรับสำคัญหรือโดยใช้อัตราส่วน Risk-Reward Ratio ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

    ตัวอย่างเช่น: หากตั้ง Stop-Loss ไว้ 2% เหนือราคาที่เข้าเทรดคุณอาจตั้ง Profit Target ไว้อย่างน้อย 4% ต่ำกว่าราคาในการเข้าเทรดเพื่อให้มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่เหมาะสม

    แนวทางนี้ช่วยให้สามารถเพิ่มโอกาสทำกำไรในขณะที่ยังคงรักษาสมดุลของความเสี่ยงในการเทรด

     

    กลยุทธ์การเทรดตามรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

    นักเทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันเมื่อต้องการเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star โดยขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์การเทรดของแต่ละคน

    มีแนวทางหลักอยู่สองแบบ ได้แก่ แนวทางแบบอนุรักษ์นิยม และแนวทางแบบเชิงรุก

     

    แนวทางแบบอนุรักษ์นิยม (Conservative Approach)

    แนวทางแบบอนุรักษ์นิยมเหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการรอการยืนยันเพิ่มเติมก่อนเข้าสู่การเทรดเพื่อให้แน่ใจว่ารูปแบบ Shooting Star เป็นสัญญาณกลับตัวขาลงที่แท้จริง

    • รอให้แท่งเทียนขาลงอีกแท่งก่อตัวขึ้นหลังจาก Shooting Star แท่งเทียนที่สองนี้ควรปิดต่ำกว่าราคาปิดของ Shooting Star เพื่อยืนยันโมเมนตัมขาลง

    • มองหาการทะลุแนวรับสำคัญเป็นการยืนยันเพิ่มเติมแนวรับทำหน้าที่เป็นจุดต่ำสุดของราคา และหากราคาทะลุแนวรับลงมาแสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่งมากขึ้น

    • หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิด Shooting Star และแท่งเทียนยืนยันจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของสัญญาณมากยิ่งขึ้น

    แนวทางนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการเข้าเทรดโดยใช้สัญญาณหลอก และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตามอาจทำให้พลาดโอกาสในการเข้าเทรดหากตลาดเคลื่อนไหวเร็วหลังจาก Shooting Star ปรากฏขึ้น

     

    แนวทางแบบเชิงรุก (Aggressive Approach)

    แนวทางแบบเชิงรุกเหมาะสำหรับนักเทรดที่ยอมรับความเสี่ยงสูงขึ้นเพื่อแลกกับโอกาสทำกำไรที่มากขึ้น

    กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเข้าเทรดทันทีหลังจากรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ก่อตัวโดยไม่ต้องรอการยืนยันเพิ่มเติม

    • เมื่อระบุรูปแบบได้แล้วให้วางคำสั่งขาย (Sell Order) ใต้ระดับต่ำสุดของแท่งเทียน Shooting Star เพื่อให้สามารถจับการเคลื่อนไหวของตลาดได้ตั้งแต่ช่วงแรกของการกลับตัว

    • ใช้ Stop-Loss ระยะสั้นเพื่อบริหารความเสี่ยงเนื่องจาก

    • กลยุทธ์นี้มีโอกาสเกิดสัญญาณหลอกได้บ่อยขึ้นเพราะตลาดอาจไม่เคลื่อนไหวตามทิศทางขาลงที่ Shooting Star ส่งสัญญาณไว้เสมอ

    แนวทางนี้ช่วยให้นักเทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็วและมีโอกาสทำกำไรสูงสุดจากการลดลงของราคาในระยะสั้น อย่างไรก็ตามกลยุทธ์นี้ต้องอาศัยความสามารถในการรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น และความรวดเร็วในการตัดสินใจเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด

     

    การผสมผสานแนวทาง (Combining Approaches)

    นักเทรดเดอร์บางคนเลือกใช้การผสมผสานแนวทางทั้งสองแบบเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน

    ตัวอย่างเช่น นักเทรดเดอร์อาจเปิดสถานะบางส่วนทันทีหลังจากที่ระบุรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star (แนวทางเชิงรุก) และเพิ่มสถานะอีกครั้งเมื่อตลาดให้สัญญาณยืนยันเพิ่มเติม (แนวทางอนุรักษ์นิยม)

    กลยุทธ์นี้ช่วยให้นักเทรดสามารถจับการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงแรกพร้อมกับยังคงรอการยืนยันเพิ่มเติมก่อนที่จะทุ่มเงินทุนทั้งหมดลงไป

    โดยสรุปการเลือกใช้แนวทางอนุรักษ์นิยม หรือแนวทางเชิงรุกขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สไตล์การเทรด และสภาวะตลาดในขณะนั้น

     

    วิธีเทรดรูปแบบ Shooting Star ร่วมกับ Indicators ทางเทคนิค

    การใช้แท่งเทียน Shooting Star ควบคู่กับ Indicators ทางเทคนิค สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณกลับตัวได้อย่างมาก มาดูกันว่า Indicators เหล่านี้สามารถเสริมการวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ได้อย่างไร

     

    กลยุทธ์ Shooting Star Candlestick และ Fibonacci Retracement

    การจับคู่รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star กับ ระดับ Fibonacci Retracement สามารถช่วยให้คุณวางแผนการเข้าและออกจากตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

    หลังจากระบุ Shooting Star ที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้นแล้ว สามารถใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาแนวรับสำคัญหากราคาปรับตัวลงและสอดคล้องกับระดับ 38.2% หรือ 61.8% Fibonacci จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของสัญญาณกลับตัวขาลง

    ระดับ Fibonacci เหล่านี้มักทำหน้าที่เป็นจุดกลับตัวทางธรรมชาติของราคาทำให้เป็นโซนที่เหมาะสมสำหรับการพิจารณาเข้าออเดอร์ขาย (Short Position)

     

    กลยุทธ์ Shooting Star Candlestick และ Relative Strength Index (RSI)

    RSI (Relative Strength Index) เป็นอินดิเคเตอร์วัดโมเมนตัมที่ช่วยระบุความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคาเมื่อรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ปรากฏขึ้นการตรวจสอบ RSI สามารถช่วยยืนยันว่าตลาดอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือไม่

    หากค่า RSI สูงกว่า 70 หมายความว่าแรงซื้ออาจถึงจุดสูงสุดและราคามีแนวโน้มจะกลับตัวลงการที่ Shooting Star เกิดขึ้นในสภาวะซื้อมากกเกินไปจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของสัญญาณกลับตัวขาลง และเพิ่มโอกาสในการเข้าออเดอร์ขายอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

     

    กลยุทธ์ Shooting Star Candlestick และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages)

    การใช้ Moving Averages (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) ควบคู่กับรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star สามารถช่วยให้มองเห็นทิศทางแนวโน้มและโอกาสกลับตัวได้ชัดเจนขึ้น

    หากพบแท่งเทียน Shooting Star และราคากำลังเคลื่อนที่ออกห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ เช่น เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (50-day MA) หรือ 200 วัน (200-day MA) อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังอ่อนแรงและการกลับตัวขาลงอาจเกิดขึ้น

    นอกจากนี้หากเกิด Crossover ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและระยะยาวหลังจากเกิด Shooting Star จะเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่งสำหรับการเข้าออเดอร์ขาย

     

    แท่งเทียน Shooting Star สีแดงบ่งบอกถึงอะไร?

    Shooting Star สีแดงเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงที่ส่งสัญญาณแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นแสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่งโดยที่ฝั่งผู้ซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่ล้มเหลวดังนั้นส่งผลให้ราคาปรับตัวลง

     

    แท่งเทียน Shooting Star สีเขียวบ่งบอกอะไร?

    Shooting Star สีเขียวยังคงเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงแต่ให้สัญญาณที่อ่อนแรงกว่าแท่งสีแดง แท่งเทียนนี้แสดงให้เห็นว่าในช่วงแรกฝั่งซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่สุดท้ายฝั่งขายเข้ามาควบคุมตลาดและกดราคาลงซึ่งอาจนำไปสู่การปรับตัวลงของราคา

     

    รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ทำกำไรได้หรือไม่?

    Shooting Star สามารถทำกำไรได้หากใช้ร่วมกับสัญญาณยืนยัน (เช่น แท่งเทียนขาลงที่ตามมาหลังจากรูปแบบปรากฏ) และอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวต้านและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย อย่างไรก็ตามอาจมีสัญญาณหลอกเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์นี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

     

    ข้อดีและข้อจำกัดของรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star

    การเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star มีข้อดีแต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน

     

    ข้อดี

    • สัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน: Shooting Star เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงโอกาสกลับตัวเป็นขาลง ทำให้นักเทรดสามารถระบุแนวโน้มตลาดและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

    • ง่ายต่อการระบุ: ด้วยรูปทรงที่โดดเด่นนักเทรดสามารถมองเห็นรูปแบบนี้บนกราฟได้ง่ายแม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถสังเกตได้

    • ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย: รูปแบบนี้เป็นที่รู้จักและถูกนำมาใช้โดยนักเทรดจำนวนมาก ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสัญญาณที่เกิดขึ้น

     

    ข้อจำกัด

    • อาจเกิดสัญญาณหลอก: เช่นเดียวกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ Shooting Star อาจให้สัญญาณผิดพลาดส่งผลให้เกิดการขาดทุน

    • ต้องการการยืนยันเพิ่มเติม: รูปแบบนี้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการตัดสินใจเข้าเทรดนักเทรดควรรอการยืนยันเพิ่มเติมก่อนเข้าสู่การซื้อขาย

     

    บทสรุป

    โดยสรุปแล้วรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นองค์ประกอบสำคัญในกลยุทธ์ของนักเทรดเดอร์ทุกคน การเข้าใจโครงสร้างและการเกิดขึ้นของรูปแบบนี้ช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     

     

    พร้อมสำหรับก้าวต่อไปในการซื้อขายหรือยัง?

    เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย

    รับสิทธิ์เข้าถึงฟรี
    สารบัญ

      คำถามที่พบบ่อย

      ไม่ใช่ แท่งเทียน Shooting Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงซึ่งส่งสัญญาณถึงแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นแท่งเทียนนี้บ่งบอกว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรงและฝั่งขายกำลังเข้าควบคุมตลาดซึ่งอาจทำให้ราคาปรับตัวลดลง

      แท่งเทียนประเภทรูปดาว (Star) โดยทั่วไปเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้มสำหรับ แท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) นั้นเป็นสัญญาณกลับตัวขาลงซึ่งแสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมขาขึ้นกำลังอ่อนแรงและมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลง

      ทำให้เป็นรูปแบบที่สำคัญสำหรับนักเทรดเดอร์ที่ต้องการระบุและใช้ประโยชน์จากการกลับตัวของตลาด

      แท่งเทียน Shooting Star มีตัวแท่งขนาดเล็กอยู่ใกล้ราคาต่ำสุดของช่วงการซื้อขา และมีไส้เทียนบนยาว

      โครงสร้างนี้แสดงให้เห็นว่าฝั่งซื้อ (Bulls) พยายามดันราคาให้สูงขึ้นระหว่างเซสชั่นแต่สุดท้ายฝั่งขาย (Bears) กลับเข้ามากดราคาลงใกล้ระดับราคาเปิด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโอกาสในการกลับตัวเป็นขาลง

      รูปแบบแท่งเทียนที่ตรงข้ามกับ Shooting Star คือ Inverted Hammer ซึ่งเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นที่พบในช่วงปลายของแนวโน้มขาลง

      แม้ว่าทั้งสองรูปแบบจะมีลักษณะคล้ายกันแต่ Inverted Hammer เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแนวโน้มขาลงกำลังอ่อนแรงและฝั่งซื้อ (Bulls) อาจเริ่มเข้าควบคุมตลาด ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับตัวเป็นขาขึ้น

      เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง

      scroll top