ตลาด
บัญชี
แพลตฟอร์ม
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือ
เขียนโดย XS Editorial Team
อัปเดตแล้ว 14 มีนาคม 2025
รูปแบบแท่งเทียนดาวตก Shooting Star เป็นแท่งเทียนกลับตัวขาลงตามหลักการของแท่งเทียนญี่ปุ่น
สัญญาณนี้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการกลับตัวของแนวโน้มซึ่งหากนักเทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อาจสร้างโอกาสทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้จะอธิบายวิธีการระบุรูปแบบแท่งเทียนดาวตกและแนวทางการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ
แท่งเทียนดาวตกเป็นรูปแบบกลับตัวขาลงและเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในเชิงวิเคราะห์ทางเทคนิค
รูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อแนวโน้มตลาดเปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลงซึ่งจะส่งสัญญาณว่าอาจเกิดการลดลงของราคา
โครงสร้างของแท่งเทียนดาวตกประกอบด้วยตัวแท่งขนาดเล็กที่อยู่ใกล้จุดต่ำสุดของช่วงการซื้อขาย มีไส้เทียนด้านบนยาวและมีไส้เทียนล่างเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
แท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงและถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงเป็นลักษณะของกราฟที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่แนวโน้มขาขึ้นอาจเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง
รูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยนจากภาวะกระทิง (Bullish) ไปเป็นภาวะหมี (Bearish) ซึ่งหมายความว่าราคาที่เคยปรับตัวสูงขึ้นอาจเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
รูปแบบแท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) ได้รับการตั้งชื่อตามลักษณะที่คล้ายกับดาวตกโครงสร้างของแท่งเทียนนี้มีเอกลักษณ์และสามารถสังเกตได้ง่ายโดยประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่:
ตัวแท่งเทียนขนาดเล็ก: ตัวแท่งเทียนมีขนาดเล็กและอยู่ใกล้กับราคาต่ำสุดของช่วงการซื้อขายแสดงให้เห็นว่าระหว่างราคาเปิดและปิดมีความแตกต่างกันน้อย
ไส้เทียนบนยาว: ไส้เทียนด้านบนยาวอย่างน้อย 2 เท่าของตัวแท่งเทียนแสดงให้เห็นว่าระหว่างเซสชันราคาเคยพุ่งขึ้นสูงแต่สุดท้ายกลับปรับตัวลงมาใกล้ระดับราคาเปิด
ไม่มีไส้เทียนล่างหรือมีขนาดเล็กมาก: ไส้เทียนล่างมีขนาดเล็กมากหรือแทบไม่มีเลย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างฝั่งซื้อและฝั่งขาย
รูปแบบนี้บ่งบอกว่าแม้ฝั่งซื้อ (Bulls) จะพยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่แรงขาย (Bears) กลับเข้ามากดดันทำให้ราคาลดลงใกล้กับระดับเปิดของเซสชั่นซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับตัวลง (Bearish Reversal)
รูปแบบแท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) มักเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาขึ้นและเป็นสัญญาณเตือนถึง โอกาสในการกลับตัวลง
รูปแบบนี้ปรากฏขึ้นเมื่อราคาเปิดตลาดปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่จากนั้นถูกแรงขายกดดันให้ร่วงลงมาปิดใกล้กับราคาเปิดซึ่งบ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนกำลังลง
แท่งเทียนดาวตกประสิทธิภาพมากขึ้นหากเกิดขึ้นหลังจากชุดแท่งเทียนขาขึ้นต่อเนื่องเนื่องจากเป็นสัญญาณว่าการเคลื่อนไหวขาขึ้นเริ่มอ่อนแรงและมีโอกาสที่ตลาดจะกลับตัวลง
สำหรับนักเทรดเดอร์รูปแบบดาวตกเป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่ช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มตลาด ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์การกลับตัวเป็นขาลง
เพื่อให้เข้าใจแท่งเทียน Shooting Star ได้ชัดเจนขึ้นลองพิจารณาหุ้นที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
ตัวอย่างเช่น: หุ้นเปิดที่ $100 ปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ $110 ในระหว่างเซสชันการซื้อขายแต่สุดท้ายปิดที่ $102
แท่งเทียนที่เกิดขึ้นจะมีตัวแท่งเล็กอยู่ใกล้ระดับราคาต่ำสุดของวันและมีไส้เทียนบนยาวสะท้อนถึงแรงซื้อที่พยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่ถูกแรงขายกดดันให้ราคาลดลงใกล้จุดเปิดกลายเป็นรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง
เมื่อต้องการทำความเข้าใจการกลับตัวของตลาดแท่งเทียน Shooting Star ไม่ใช่เพียงรูปแบบเดียวที่ควรจับตามองรูปแบบแท่งเทียนอื่นๆ เช่น Doji และ Hanging Man มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันแต่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
แม้ว่าแท่งเทียน Shooting Star จะเป็นสัญญาณการกลับตัวลงแต่สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะความแตกต่างจาก Inverted Hammer ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้น
Inverted Hammer ปรากฏที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงและมีลักษณะคล้ายกับ Shooting Star โดยมีตัวแท่งขนาดเล็กและไส้เทียนบนยาว อย่างไรก็ตามความแตกต่างหลักอยู่ที่ตำแหน่งภายในแนวโน้ม
Shooting Star เป็นสัญญาณว่าตลาดอาจกลับตัวลง แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มอ่อนแรงหลังจากแนวโน้มขาขึ้น
Inverted Hammer เป็นสัญญาณว่าตลาดอาจกลับตัวขึ้น บ่งชี้ว่าแรงขายกำลังอ่อนลงและมีโอกาสเกิดแนวโน้มขาขึ้นใหม่
แม้ว่า Shooting Star และ Doji อาจดูคล้ายกันในแวบแรกแต่ความหมายของทั้งสองรูปแบบนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
Doji เป็นสัญญาณของความไม่แน่นอนในตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงซื้อและแรงขายมีอิทธิพลเท่าเทียมกันไม่มีฝั่งใดควบคุมตลาดได้อย่างชัดเจน ขณะที่ Shooting Star บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของอำนาจในตลาดอย่างชัดเจน โดยฝั่งกระทิง (Bulls) เริ่มสูญเสียการควบคุม และอาจเป็นสัญญาณของ การกลับตัวลง
โดยสรุป Doji สะท้อนถึงความลังเลของตลาดในขณะที่ Shooting Star บ่งบอกถึงการสูญเสียโมเมนตัมของแนวโน้มขาขึ้น
Shooting Star และ Hanging Man มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นรูปแบบเดียวกันเนื่องจากทั้งคู่มักปรากฏที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตามความแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่โครงสร้างของแท่งเทียน
Shooting Star มีไส้เทียนบนยาว ซึ่งบ่งบอกว่าแรงซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่ไม่สำเร็จและสุดท้ายราคาถูกกดลงใกล้ระดับเปิด
Hanging Man มีไส้เทียนล่างยาวซึ่งหมายความว่าแรงขายเข้ามากดราคาลงในระหว่างเซสชันแต่ฝั่งซื้อสามารถดึงราคากลับขึ้นมาได้ก่อนปิดตลาด
แม้ว่าทั้งสองรูปแบบจะเป็นสัญญาณการกลับตัวลงแต่กระบวนการเกิดสัญญาณของแต่ละแท่งมีความแตกต่างกัน
การเทรดด้วยแท่งเทียน Shooting Star ซึ่งเป็นสัญญาณกลับตัวขาลงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสัญญาณ
ต่อไปนี้คือขั้นตอนสำคัญในการเทรดด้วยรูปแบบ Shooting Star:
ยืนยันสัญญาณ: การยืนยันรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นสิ่งสำคัญก่อนดำเนินการซื้อขาย รอให้แท่งเทียนถัดไปปิดต่ำลงเพื่อยืนยันสัญญาณกลับตัวขาลงคุณยังสามารถใช้ชีทช่วยจำสรุปข้อมูลแท่งเทียน (Cheat Sheet) เป็นตัวช่วยในการระบุรูปแบบแท่งเทียนทั้งหมดได้โดยตรงเพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาณที่เกิดขึ้นมีความถูกต้องและแม่นยำ
ยืนยันสัญญาณ: การยืนยันรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นสิ่งสำคัญก่อนดำเนินการใดๆ รอให้แท่งเทียนถัดไปปิดต่ำลงเพื่อยืนยันสัญญาณกลับตัวขาลง (Bearish Reversal)
วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นในวันที่เกิดแท่งเทียน Shooting Star หรือในวันที่ได้รับการยืนยันสัญญาณกลับตัวช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสัญญาณขาลง ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของนักลงทุนจำนวนมากซึ่งช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของรูปแบบแท่งเทียนนี้
เข้าออเดอร์เทรด: เมื่อได้รับการยืนยันสัญญาณแล้วให้ทำการเปิดคำสั่งขาย (Sell Order) คำสั่งขายคือคำสั่งที่ส่งไปยังโบรกเกอร์เพื่อขายสินทรัพย์ในปริมาณที่กำหนดตามราคาที่กำหนดหรือราคาตลาด ในบริบทของการเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star การเปิดคำสั่งขายหมายถึงการเข้าสู่สถานะขายเพราะคาดว่าราคาจะปรับตัวลงหลังจากสัญญาณกลับตัวขาลงได้รับการยืนยัน
ตั้งค่าจุดหยุดขาดทุน: เพื่อบริหารความเสี่ยงให้ตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss Order) ไว้เหนือระดับสูงสุดของแท่งเทียน Shooting Starการเว้นระยะ Stop-Loss ในระดับนี้ช่วยป้องกันสถานะของคุณหากราคามีการเคลื่อนไหวสวนทางชั่วคราวก่อนกลับสู่แนวโน้มขาลงตามที่คาดการณ์
กำหนดเป้าหมายกำไร: ตั้งเป้าหมายกำไร (Take-Profit) โดยพิจารณาจากแนวรับสำคัญหรือใช้ อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio) ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรและบริหารความเสี่ยงในการเทรด
เฝ้าติดตามสภาวะตลาดโดยรวมและข่าวสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมตามสถานการณ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสูงสุด
การตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss) เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องเงินทุนในการเทรดกลยุทธ์ทั่วไปคือการวาง Stop-Loss เหนือระดับสูงสุดของแท่งเทียน Shooting Star
ระดับนี้ทำหน้าที่เป็นจุดกันชน (Buffer) ในกรณีที่ราคามีการเคลื่อนไหวสวนทางชั่วคราวก่อนที่แนวโน้มขาลงจะกลับมาดำเนินต่อ
โดยการวาง Stop-Loss ที่ระดับนี้ช่วยจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในขณะเดียวกันก็ให้พื้นที่เพียงพอสำหรับราคาที่จะเคลื่อนไหวไปตามแนวโน้มที่คาดการณ์ไว้
การตั้งเป้าหมายกำไร (Profit Target) เป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การเทรดที่ประสบความสำเร็จเมื่อลงทุนโดยใช้รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป้าหมายกำไรสามารถกำหนดได้จากแนวรับสำคัญหรือโดยใช้อัตราส่วน Risk-Reward Ratio ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ตัวอย่างเช่น: หากตั้ง Stop-Loss ไว้ 2% เหนือราคาที่เข้าเทรดคุณอาจตั้ง Profit Target ไว้อย่างน้อย 4% ต่ำกว่าราคาในการเข้าเทรดเพื่อให้มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่เหมาะสม
แนวทางนี้ช่วยให้สามารถเพิ่มโอกาสทำกำไรในขณะที่ยังคงรักษาสมดุลของความเสี่ยงในการเทรด
นักเทรดเดอร์สามารถใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันเมื่อต้องการเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star โดยขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์การเทรดของแต่ละคน
มีแนวทางหลักอยู่สองแบบ ได้แก่ แนวทางแบบอนุรักษ์นิยม และแนวทางแบบเชิงรุก
แนวทางแบบอนุรักษ์นิยมเหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการรอการยืนยันเพิ่มเติมก่อนเข้าสู่การเทรดเพื่อให้แน่ใจว่ารูปแบบ Shooting Star เป็นสัญญาณกลับตัวขาลงที่แท้จริง
รอให้แท่งเทียนขาลงอีกแท่งก่อตัวขึ้นหลังจาก Shooting Star แท่งเทียนที่สองนี้ควรปิดต่ำกว่าราคาปิดของ Shooting Star เพื่อยืนยันโมเมนตัมขาลง
มองหาการทะลุแนวรับสำคัญเป็นการยืนยันเพิ่มเติมแนวรับทำหน้าที่เป็นจุดต่ำสุดของราคา และหากราคาทะลุแนวรับลงมาแสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่งมากขึ้น
หากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิด Shooting Star และแท่งเทียนยืนยันจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของสัญญาณมากยิ่งขึ้น
แนวทางนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการเข้าเทรดโดยใช้สัญญาณหลอก และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตามอาจทำให้พลาดโอกาสในการเข้าเทรดหากตลาดเคลื่อนไหวเร็วหลังจาก Shooting Star ปรากฏขึ้น
แนวทางแบบเชิงรุกเหมาะสำหรับนักเทรดที่ยอมรับความเสี่ยงสูงขึ้นเพื่อแลกกับโอกาสทำกำไรที่มากขึ้น
กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเข้าเทรดทันทีหลังจากรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ก่อตัวโดยไม่ต้องรอการยืนยันเพิ่มเติม
เมื่อระบุรูปแบบได้แล้วให้วางคำสั่งขาย (Sell Order) ใต้ระดับต่ำสุดของแท่งเทียน Shooting Star เพื่อให้สามารถจับการเคลื่อนไหวของตลาดได้ตั้งแต่ช่วงแรกของการกลับตัว
ใช้ Stop-Loss ระยะสั้นเพื่อบริหารความเสี่ยงเนื่องจาก
กลยุทธ์นี้มีโอกาสเกิดสัญญาณหลอกได้บ่อยขึ้นเพราะตลาดอาจไม่เคลื่อนไหวตามทิศทางขาลงที่ Shooting Star ส่งสัญญาณไว้เสมอ
แนวทางนี้ช่วยให้นักเทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาดที่รวดเร็วและมีโอกาสทำกำไรสูงสุดจากการลดลงของราคาในระยะสั้น อย่างไรก็ตามกลยุทธ์นี้ต้องอาศัยความสามารถในการรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น และความรวดเร็วในการตัดสินใจเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด
นักเทรดเดอร์บางคนเลือกใช้การผสมผสานแนวทางทั้งสองแบบเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน
ตัวอย่างเช่น นักเทรดเดอร์อาจเปิดสถานะบางส่วนทันทีหลังจากที่ระบุรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star (แนวทางเชิงรุก) และเพิ่มสถานะอีกครั้งเมื่อตลาดให้สัญญาณยืนยันเพิ่มเติม (แนวทางอนุรักษ์นิยม)
กลยุทธ์นี้ช่วยให้นักเทรดสามารถจับการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงแรกพร้อมกับยังคงรอการยืนยันเพิ่มเติมก่อนที่จะทุ่มเงินทุนทั้งหมดลงไป
โดยสรุปการเลือกใช้แนวทางอนุรักษ์นิยม หรือแนวทางเชิงรุกขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สไตล์การเทรด และสภาวะตลาดในขณะนั้น
การใช้แท่งเทียน Shooting Star ควบคู่กับ Indicators ทางเทคนิค สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำของสัญญาณกลับตัวได้อย่างมาก มาดูกันว่า Indicators เหล่านี้สามารถเสริมการวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ได้อย่างไร
การจับคู่รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star กับ ระดับ Fibonacci Retracement สามารถช่วยให้คุณวางแผนการเข้าและออกจากตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
หลังจากระบุ Shooting Star ที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้นแล้ว สามารถใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาแนวรับสำคัญหากราคาปรับตัวลงและสอดคล้องกับระดับ 38.2% หรือ 61.8% Fibonacci จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของสัญญาณกลับตัวขาลง
ระดับ Fibonacci เหล่านี้มักทำหน้าที่เป็นจุดกลับตัวทางธรรมชาติของราคาทำให้เป็นโซนที่เหมาะสมสำหรับการพิจารณาเข้าออเดอร์ขาย (Short Position)
RSI (Relative Strength Index) เป็นอินดิเคเตอร์วัดโมเมนตัมที่ช่วยระบุความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคาเมื่อรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ปรากฏขึ้นการตรวจสอบ RSI สามารถช่วยยืนยันว่าตลาดอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือไม่
หากค่า RSI สูงกว่า 70 หมายความว่าแรงซื้ออาจถึงจุดสูงสุดและราคามีแนวโน้มจะกลับตัวลงการที่ Shooting Star เกิดขึ้นในสภาวะซื้อมากกเกินไปจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของสัญญาณกลับตัวขาลง และเพิ่มโอกาสในการเข้าออเดอร์ขายอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
การใช้ Moving Averages (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) ควบคู่กับรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star สามารถช่วยให้มองเห็นทิศทางแนวโน้มและโอกาสกลับตัวได้ชัดเจนขึ้น
หากพบแท่งเทียน Shooting Star และราคากำลังเคลื่อนที่ออกห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ เช่น เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (50-day MA) หรือ 200 วัน (200-day MA) อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังอ่อนแรงและการกลับตัวขาลงอาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้หากเกิด Crossover ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและระยะยาวหลังจากเกิด Shooting Star จะเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่งสำหรับการเข้าออเดอร์ขาย
Shooting Star สีแดงเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงที่ส่งสัญญาณแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นแสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่งโดยที่ฝั่งผู้ซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่ล้มเหลวดังนั้นส่งผลให้ราคาปรับตัวลง
Shooting Star สีเขียวยังคงเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงแต่ให้สัญญาณที่อ่อนแรงกว่าแท่งสีแดง แท่งเทียนนี้แสดงให้เห็นว่าในช่วงแรกฝั่งซื้อพยายามดันราคาให้สูงขึ้นแต่สุดท้ายฝั่งขายเข้ามาควบคุมตลาดและกดราคาลงซึ่งอาจนำไปสู่การปรับตัวลงของราคา
Shooting Star สามารถทำกำไรได้หากใช้ร่วมกับสัญญาณยืนยัน (เช่น แท่งเทียนขาลงที่ตามมาหลังจากรูปแบบปรากฏ) และอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวต้านและการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย อย่างไรก็ตามอาจมีสัญญาณหลอกเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการใช้กลยุทธ์นี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
การเทรดด้วยรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star มีข้อดีแต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน
สัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน: Shooting Star เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงโอกาสกลับตัวเป็นขาลง ทำให้นักเทรดสามารถระบุแนวโน้มตลาดและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ง่ายต่อการระบุ: ด้วยรูปทรงที่โดดเด่นนักเทรดสามารถมองเห็นรูปแบบนี้บนกราฟได้ง่ายแม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถสังเกตได้
ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย: รูปแบบนี้เป็นที่รู้จักและถูกนำมาใช้โดยนักเทรดจำนวนมาก ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสัญญาณที่เกิดขึ้น
อาจเกิดสัญญาณหลอก: เช่นเดียวกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ Shooting Star อาจให้สัญญาณผิดพลาดส่งผลให้เกิดการขาดทุน
ต้องการการยืนยันเพิ่มเติม: รูปแบบนี้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการตัดสินใจเข้าเทรดนักเทรดควรรอการยืนยันเพิ่มเติมก่อนเข้าสู่การซื้อขาย
โดยสรุปแล้วรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นองค์ประกอบสำคัญในกลยุทธ์ของนักเทรดเดอร์ทุกคน การเข้าใจโครงสร้างและการเกิดขึ้นของรูปแบบนี้ช่วยให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย
ไม่ใช่ แท่งเทียน Shooting Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงซึ่งส่งสัญญาณถึงแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นแท่งเทียนนี้บ่งบอกว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรงและฝั่งขายกำลังเข้าควบคุมตลาดซึ่งอาจทำให้ราคาปรับตัวลดลง
แท่งเทียนประเภทรูปดาว (Star) โดยทั่วไปเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้มสำหรับ แท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) นั้นเป็นสัญญาณกลับตัวขาลงซึ่งแสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมขาขึ้นกำลังอ่อนแรงและมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลง
ทำให้เป็นรูปแบบที่สำคัญสำหรับนักเทรดเดอร์ที่ต้องการระบุและใช้ประโยชน์จากการกลับตัวของตลาด
แท่งเทียน Shooting Star มีตัวแท่งขนาดเล็กอยู่ใกล้ราคาต่ำสุดของช่วงการซื้อขา และมีไส้เทียนบนยาว
โครงสร้างนี้แสดงให้เห็นว่าฝั่งซื้อ (Bulls) พยายามดันราคาให้สูงขึ้นระหว่างเซสชั่นแต่สุดท้ายฝั่งขาย (Bears) กลับเข้ามากดราคาลงใกล้ระดับราคาเปิด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโอกาสในการกลับตัวเป็นขาลง
รูปแบบแท่งเทียนที่ตรงข้ามกับ Shooting Star คือ Inverted Hammer ซึ่งเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นที่พบในช่วงปลายของแนวโน้มขาลง
แม้ว่าทั้งสองรูปแบบจะมีลักษณะคล้ายกันแต่ Inverted Hammer เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแนวโน้มขาลงกำลังอ่อนแรงและฝั่งซื้อ (Bulls) อาจเริ่มเข้าควบคุมตลาด ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับตัวเป็นขาขึ้น
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง