Logo
หน้าหลัก     บทความ     Short Squeeze คืออะไร

ฟอเร็กซ์

Short Squeeze คืออะไร? ความหมาย สาเหตุ และตัวอย่าง

เขียนโดย XS Editorial Team

อัปเดตแล้ว 7 มีนาคม 2025

Short-Squeeze-คืออะไร
สารบัญ

    Short Squeeze คือการพุ่งสูงขึ้นของราคาหุ้นอย่างฉับพลันในหุ้นที่ถูกขายชอร์ตอย่างหนักส่งผลให้นักลงทุนที่เปิดสถานะชอร์ตต้องซื้อคืนหุ้นในราคาที่สูงขึ้นเพื่อปิดสถานะซึ่งยิ่งกระตุ้นให้ราคาปรับตัวขึ้นไปอีกปรากฏการณ์นี้มักทำให้เกิด ความผันผวนรุนแรง โดยราคาหุ้นสามารถทะยานขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ

    ดังนั้น Short Squeeze เกิดขึ้นได้อย่างไรและอะไรเป็นปัจจัยที่กระตุ้น? บทความนี้จะอธิบายกลไกของ Short Squeeze วิธีระบุหุ้นที่มีโอกาสเกิดและกลยุทธ์ในการทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากสถานการณ์ดังกล่าว

    สาระสำคัญ

    • Short Squeeze เกิดขึ้นเมื่อผู้ขายชอร์ตถูกบังคับให้ซื้อหุ้นคืนในขณะที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งมักทำให้เกิดความผันผวนสูงและอาจนำไปสู่กำไรมหาศาลหรือขาดทุนหนัก

    • ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิด Short Squeeze ได้แก่ อัตราการขายชอร์ตสูง ข่าวเชิงบวก และกระแสการเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อย

    • แม้ว่า Short Squeeze จะเป็นโอกาสในการทำกำไรที่สูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกันและมักนำไปสู่การปรับฐานของราคาอย่างรุนแรง

    ทอลองใช้บัญชีเดโม่โดยไม่มีความเสี่ยง

    ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

    เปิดบัญชีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    ทำความเข้าใจการขายชอร์ต (Short Selling)

    เพื่อให้เข้าใจ Short Squeeze ได้ดีขึ้นจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าการขายชอร์ต (Short Selling) ทำงานอย่างไร

    การขายชอร์ตคือการที่นักเทรดเดิมพันว่าราคาหุ้นจะลดลงแทนที่จะเพิ่มขึ้นพวกเขาจะยืมหุ้นจากโบรกเกอร์ขายออกไปที่ราคาปัจจุบัน และตั้งใจจะซื้อคืนในภายหลังที่ราคาต่ำกว่าเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา

    ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดขายชอร์ตหุ้นที่ราคา $50 ต่อหุ้น และราคาลดลงมาเหลือ $30 พวกเขาสามารถซื้อคืนหุ้นที่ราคาต่ำกว่าและทำกำไร $20 ต่อหุ้น อย่างไรก็ตามหากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแทนนักเทรดอาจขาดทุนได้ไม่จำกัดเพราะราคาหุ้นสามารถพุ่งขึ้นไปได้โดยไม่มีเพดานสูงสุด

     

    Short Squeeze คืออะไร?

    Short Squeeze คือปรากฏการณ์ในตลาดที่ราคาหุ้นที่ถูกขายชอร์ตอย่างหนักพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว บีบบังคับให้นักลงทุนที่เปิดสถานะชอร์ตต้องซื้อหุ้นคืนเพื่อลดการขาดทุน ซึ่งแรงซื้อที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่องเกิดเป็นวงจรเร่งตัวของราคาและทำให้การบีบชอร์ตยิ่งรุนแรงขึ้น

    Short Squeeze มักเกิดขึ้นเมื่อหุ้นมีอัตราการขายชอร์ตสูง (High Short Interest) ซึ่งหมายความว่าหุ้นจำนวนมากถูกยืมไปขายชอร์ต หากมีข่าวดีที่ไม่คาดคิด หรือ ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนักลงทุนที่ถือสถานะชอร์ตต้องรีบปิดออเดอร์ทำให้เกิดแรงซื้อเพิ่มเติมและหนุนให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นต่อไป

     

    Short Squeeze ทำงานอย่างไร?

    1️. นักเทรดขายชอร์ตหุ้น โดยคาดว่าราคาจะลดลง
    2️. ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิด เนื่องจากข่าวดีผลประกอบการที่แข็งแกร่งหรือแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น
    3️. นักลงทุนที่ขายชอร์ตเริ่มตื่นตระหนก เมื่อขาดทุนมากขึ้นและรีบซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดสถานะ
    4️. แรงซื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีกกดดันให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตต้องปิดสถานะมากขึ้น
    5️.วงจรนี้ดำเนินต่อไปจนกว่าแรงซื้อจะเริ่มลดลงหรือมีสถานะขายชอร์ตใหม่เข้ามาทำให้ราคากลับมาทรงตัว

     

    สาเหตุของ Short Squeeze

    มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิด Short Squeeze ได้แก่:

    1️. อัตราการขายชอร์ตสูง (High Short Interest)

    เมื่อมีนักเทรดจำนวนมากเปิดสถานะขายชอร์ตในหุ้นตัวเดียวกันความเสี่ยงของการเกิด Short Squeeze จะเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปหากอัตราการขายชอร์ตสูงกว่า 20% จะถือว่าอยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงสูง

    2️. ข่าวดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน (Sudden Positive News)

    ข่าวเชิงบวก เช่น ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง การประกาศความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ หรือ การอนุมัติกฎระเบียบสำคัญสามารถกระตุ้นแรงซื้อในตลาดและนำไปสู่การเกิด Short Squeeze ได้

    3️. กระแสเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อย (Retail Trading Frenzy)

    นักลงทุนรายย่อยบนแพลตฟอร์ม เช่น WallStreetBets ของ Reddit สามารถประสานการซื้อหุ้นร่วมกัน ทำให้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นและกดดันให้ผู้ขายชอร์ตต้องปิดสถานะ

    4️. หุ้นที่มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนต่ำ (Low Float Stocks)

    หุ้นที่มีปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดต่ำทำให้ความต้องการซื้อสามารถแซงหน้าปริมาณเสนอขายได้อย่างรวดเร็วส่งผลให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรง

     

    ทำความเข้าใจโครงสร้างของ Short Squeeze

    นี่คือการแบ่งขั้นตอนสำคัญของ Short Squeeze:

    1️. ช่วงการซื้อขายปกติ (Normal Trading Zone)

    • นี่คือระยะเริ่มต้นที่ราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบปกติโดยไม่มีความผันผวนที่รุนแรง

    • นักลงทุนที่ขายชอร์ตยังคงถือสถานะได้อย่างสบายใจเพราะคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงตามแผนที่วางไว้

    2️. ช่วงเกิด Short Squeeze Breakout

    • การทะลุแนวเกิดขึ้นเมื่อลราคาหุ้นเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดทำให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัว

    • สาเหตุของการทะลุแนวอาจมาจากข่าวเชิงบวก อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น หรือแรงซื้อที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

    3️. Margin Call – การปิดสถานะและการเร่งตัวของราคาขึ้นแบบพาราโบลิก

    • เมื่อราคายังคงเพิ่มขึ้นโบรกเกอร์จะออก Margin Call ให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตบังคับให้พวกเขาซื้อหุ้นคืนเพื่อป้องกันการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น

    • การซื้อคืนที่ถูกบังคับนี้ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อเพิ่มเติมส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในลักษณะพาราโบลิก

    • ในช่วงนี้นักเทรดโมเมนตั้มและนักลงทุนรายย่อยอาจเข้ามามีส่วนร่วมซึ่งช่วยผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นไปอีก

    4️. Short Squeeze Zone

    • หุ้นเข้าสู่ช่วงที่มีความผันผวนสูงสุดโดยที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

    • นักลงทุนที่ขายชอร์ตจำนวนมากถูกบังคับให้ปิดสถานะทำให้เกิดวงจรเร่งตัวของการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่อง

    • ช่วงนี้มักจะมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ความสนใจจากสื่อและกิจกรรมการเก็งกำไรที่ร้อนแรง

    5️. Short Squeeze Top

    • ช่วงสูงสุดของ Short Squeeze เกิดขึ้นเมื่อแรงซื้อเริ่มอ่อนตัวลง

    • นักเทรดเดอร์ที่เข้าซื้อในช่วงท้ายอาจติดดอยเมื่อราคาหุ้นเริ่ ปรับฐานลงอย่างรวดเร็ว

    • หลังจาก Short Squeeze จบลงหุ้นมักจะเผชิญกับการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และกลับเข้าสู่ระดับราคาที่ใกล้เคียงกับมูลค่าพื้นฐาน

     

    ตัวอย่างจริงของ Short Squeeze

    หนึ่งใน Short Squeeze ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในปี 2021 กับหุ้น GameStop (GME)หุ้น GME มี อัตราการขายชอร์ตที่สูงมาก และเมื่อนักลงทุนรายย่อยจาก WallStreetBets บน Reddit เริ่มเข้าซื้อหุ้นอย่างหนักราคาพุ่งขึ้นมากกว่า 1,000% ภายในไม่กี่วันนักลงทุนที่ขายชอร์ตรวมถึงกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ต้องเผชิญกับการขาดทุนมหาศาลนับพันล้านดอลลาร์เนื่องจากถูกบังคับให้ซื้อคืนหุ้นในราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

     

    Short Squeeze vs. Short Selling

    คุณสมบัติ

    Short Selling (การขายชอร์ต)

    Short Squeeze (การบีบชอร์ต)

    ความหมาย

    ขายหุ้นที่ยืมมาเพื่อทำกำไรจากราคาที่ลดลง

    ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วบีบให้ผู้ขายชอร์ตต้องซื้อคืนหุ้น

    เป้าหมายของนักเทรด

    ทำกำไรจากราคาหุ้นที่ลดลง

    หลีกเลี่ยงการถูกบังคับซื้อคืนหุ้นเนื่องจากราคาพุ่งสูงขึ้น

    ระดับความเสี่ยง

    สูง (อาจขาดทุนไม่จำกัด)

    สูง (มีความผันผวนรุนแรง)

    สาเหตุ

    ผลประกอบการอ่อนแอ ข่าวลบ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

    อัตราการขายชอร์ตสูง ปัจจัยด้านบวก การเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อย

    ตัวอย่าง

    กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เดิมพันกับหุ้นที่อ่อนแอ

    GameStop (GME), AMC, Volkswagen (2008)

     

    วิธีระบุหุ้นที่มีโอกาสเกิด Short Squeeze

    หากต้องการค้นหาหุ้นที่มีโอกาสเกิด Short Squeeze ให้พิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

    1. อัตราการขายชอร์ตสูง: หาก Short Interest Ratio (Days to Cover) สูงกว่า 5-10 วัน อาจเป็นสัญญาณว่ามีโอกาสเกิด Short Squeeze

    2. ปริมาณการซื้อขายที่พุ่งขึ้นผิดปกติ: หากมีการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขาย อาจหมายถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและความเป็นไปได้ของการบีบชอร์ต

    3. การเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่ง: หากหุ้นที่ถูกขายชอร์ตอย่างหนักสามารถทะลุแนวต้านสำคัญได้อาจบังคับให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตต้องปิดสถานะและทำให้ราคาพุ่งขึ้นเร็วขึ้น

    4. กระแสในโซเชียลมีเดียและนักลงทุนรายย่อย: หากมีการพูดถึงหุ้นอย่างมากบน Reddit Twitter หรือฟอรั่มการเงินอาจเป็นตัวเร่งให้หุ้นเข้าสู่ภาวะ Short Squeeze ได้

     

    ผลกระทบของ Short Squeeze ต่อตลาดหุ้น

    Short Squeeze ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยมูลค่าหุ้นอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่าภายในไม่กี่วันเมื่อผู้ขายชอร์ตรีบซื้อคืนหุ้นอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก ซึ่งดึงดูด นักเทรดโมเมนตัมและนักลงทุนรายย่อยเข้ามาเพิ่มแรงซื้อส่งผลให้การ squeeze แรงขึ้น

    อย่างไรก็ตามการพุ่งขึ้นของราคามักไม่ยั่งยืน เมื่อแรงซื้อเริ่มลดลงราคาหุ้นมักจะร่วงลงอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนที่เข้ามาซื้อในช่วงท้ายต้องเผชิญกับการขาดทุนหนัก Short Squeeze ยังสร้างความผันผวนสูงในตลาดทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างคาดเดาไม่ได้

    นอกจากนี้นักลงทุนสถาบันโดยเฉพาะกองทุนเฮดจ์ฟันด์ อาจได้รับความเสียหายมหาศาลและอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อตลาดในช่วงที่เกิด Short Squeeze ราคาหุ้นมักหลุดออกจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทโดยเคลื่อนไหวจากอุปสงค์ที่ถูกกระตุ้นมากกว่าจากผลประกอบการจริง

    แม้ว่าจะเป็นโอกาสทำกำไรสำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อเร็วแต่ Short Squeeze เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูง และมักจบลงด้วยการปรับตัวลงอย่างรุนแรงของราคา

     

    กลยุทธ์การเทรด Short Squeeze

    หากต้องการทำกำไรจาก Short Squeeze หรือหลีกเลี่ยงความเสี่ยงควรพิจารณากลยุทธ์ต่อไปนี้:

     

    สำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไร

    • Momentum Trading: เข้าซื้อเมื่อปริมาณการซื้อขายและราคาของหุ้นเริ่มพุ่งสูงขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากโมเมนตั้มของตลาด

    • Call Options: สัญญาออปชั่นช่วยให้คุณสามารถทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาโดยมีความเสี่ยงจำกัด

    • Technical Breakouts: มองหาการพุ่งขึ้นของราคาที่ทะลุระดับแนวต้านเพื่อยืนยันการเกิด Short Squeeze

     

    สำหรับผู้ขายชอร์ตที่ต้องการหลีกเลี่ยง Short Squeeze

    • Monitor Short Interest: หลีกเลี่ยงหุ้นที่มีอัตราการขายชอร์ตสูงและกำลังมีโมเมนตั้มขาขึ้น

    • Use Stop-Losses: ตั้งคำสั่ง stop-loss เพื่อออกจากสถานะอัตโนมัติหากราคาหุ้นเคลื่อนที่สวนทางกับการคาดการณ์

    • Hedging with Call Options: ซื้อ  call options เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนในสถานะขายชอร์ต

     

    บทบาทของโซเชียลมีเดียในการเกิด Short Squeeze

    โซเชียลมีเดียกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่กระตุ้นให้เกิด Short Squeeze โดยแพลตฟอร์มอย่าง Reddit Twitter YouTube และ Discord ช่วยขยายอิทธิพลของนักลงทุนรายย่อยชุมชนออนไลน์สามารถเผยแพร่แนวคิดการเทรดได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการเข้าซื้อหุ้นพร้อมกันเป็นจำนวนมากซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด Short Squeeze ในตลาด

     

    โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อ Short Squeeze อย่างไร

    • การประสานงานของนักลงทุนรายย่อย: กลุ่มอย่าง WallStreetBets บน Reddit มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้น Short Squeeze ของหุ้น GameStop (GME) และ AMC โดยรวบรวมนักเทรดจำนวนมากให้เข้าซื้อหุ้นและ Call Options พร้อมกัน

    • FOMO (Fear of Missing Out): โพสต์ที่เป็นกระแสสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดความกลัวที่จะพลาดโอกาสดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากและเพิ่มอุปสงค์ให้กับหุ้น

    • ข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว: การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นและข้อมูลอัตราการขายชอร์ตถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียทันทีส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด

    • อิทธิพลจากบุคคลที่มีชื่อเสียง: ทวีตจากบุคคลสำคัญ เช่น Elon Musk เคยทำให้หุ้นบางตัวเข้าสู่ภาวะ Short Squeeze

    แม้ว่าโซเชียลมีเดียสามารถผลักดันให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างมากแต่ก็เพิ่มความผันผวนและความเสี่ยง เนื่องจากแรงซื้อที่เกิดจากโมเมนตั้มมักจบลงด้วยการร่วงลงอย่างรวดเร็ว

     

    ความเสี่ยงและข้อเสียของ Short Squeeze

    แม้ว่า Short Squeeze อาจสร้างผลกำไรจำนวนมากให้กับนักเทรดบางคนแต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน

    ● ความผันผวนรุนแรง: ราคาสามารถร่วงลงได้เร็วพอๆ กับที่พุ่งขึ้น

    ● การขาดทุนของผู้ขายชอร์ต: การขาดทุนอาจไม่จำกัด เนื่องจากราคาหุ้นไม่มีเพดานสูงสุด

    ● นักลงทุนรายย่อยขาดทุน: หลายคนอาจเข้าซื้อในช่วงราคาสูงสุดและเผชิญกับการขาดทุนหนักเมื่อตลาดกลับตัว

    ● ความเสี่ยงจากการปั่นหุ้น: บางกรณีของ Short Squeeze อาจเกี่ยวข้องกับแผนปั่นหุ้นและเทขาย (Pump-and-Dump Schemes)

     

    บทสรุป

    Short Squeeze เป็นปรากฏการณ์ในตลาดที่ผู้ขายชอร์ตถูกบังคับให้ซื้อหุ้นคืนเมื่อราคาพุ่งสูงขึ้น ซึ่งมักได้รับแรงหนุนจากอัตราการขายชอร์ตสูงปัจจัยด้านบวกและแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยแม้ว่า Short Squeeze จะสร้างโอกาสในการทำกำไรมหาศาลแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงและความผันผวนรุนแรง ที่นักเทรดเดอร์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

    พร้อมสำหรับก้าวต่อไปในการซื้อขายหรือยัง?

    เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย

    รับสิทธิ์เข้าถึงฟรี
    สารบัญ

      คำถามที่พบบ่อย

      ตัวอย่างที่โด่งดังคือ GameStop (GME) ในปี 2021 ซึ่งนักลงทุนรายย่อยช่วยผลักดันราคาหุ้นจากต่ำกว่า $20 ไปสูงกว่า $400 ส่งผลให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ต้องปิดสถานะชอร์ตที่ขาดทุนมหาศาล

      ไม่ผิดกฎหมายหากเกิดขึ้นตามกลไกของตลาดตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามหากมีการร่วมมือกันเพื่อจงใจปั่นราคาอาจเข้าข่ายการกระทำที่หน่วยงานกำกับดูแลตรวจสอบได้

      หมายถึงนักลงทุนที่ขายชอร์ตถูกบังคับให้ซื้อคืนหุ้นในราคาที่สูงขึ้นเพื่อจำกัดการขาดทุนซึ่งยิ่งทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก

      ใช่มีหลายกรณีที่ Short Squeeze ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างมหาศาล และนักเทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวอย่าง ได้แก่ Volkswagen ในปี 2008 และ Tesla ที่เกิด Short Squeeze หลายครั้งตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

      เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง

      scroll top