CFDs
การเทรด CFD ในสินค้าโภคภัณฑ์ : การทำความเข้าใจปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคา
เขียนโดย XS Editorial Team
อัปเดตแล้ว 15 กุมภาพันธ์ 2567
สารบัญ
ทอลองใช้บัญชีเดโม่โดยไม่มีความเสี่ยง
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
เปิดบัญชีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ CFD เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์เก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง
ในบล็อกนี้ เราจะสำรวจแนวคิดของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ วิธีการทำงานของสินค้าโภคภัณฑ์ CFD และขั้นตอนในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้เรายังจะแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความสำคัญของการทำความเข้าใจเลเวอเรจใน CFD สินค้าโภคภัณฑ์และมาร์จิ้นในการซื้อขาย CFD สินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการเทรดนี้
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD คืออะไร?
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเทรดเดอร์ในการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น โลหะ แหล่งพลังงาน สินค้าเกษตร และอื่นๆ
ตลาดเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งขาขึ้นและขาลงโดยการเข้าสู่สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD)
CFD ได้รับมูลค่าจากสินค้าโภคภัณฑ์โดยไม่ต้องมีกรรมสิทธิ์ทางกายภาพ
สินค้าโภคภัณฑ์คืออะไร?
สินค้าโภคภัณฑ์เป็นวัตถุดิบหรือสินค้าเกษตรขั้นต้นที่สามารถซื้อและขายในตลาดได้
• แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ รวมถึงโลหะ (เช่น ทองคำ เงิน และทองแดง) ทรัพยากรพลังงาน (เช่น น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ) สินค้าเกษตร (เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลือง) และอื่นๆ
• สินค้าโภคภัณฑ์มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก โดยราคาได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอุปสงค์และอุปทานต่างๆ
การจำแนกประเภทของสินค้าโภคภัณฑ์
สินค้าโภคภัณฑ์สามารถแบ่งได้เป็นประเภทต่างๆ ตามลักษณะและการใช้งาน การจัดหมวดหมู่ช่วยให้เทรดเดอร์ นักลงทุน และผู้เข้าร่วมในตลาดได้เข้าใจและวิเคราะห์สินทรัพย์เหล่านี้ได้ดีขึ้น
การจำแนกประเภทสินค้าโภคภัณฑ์หลักๆ มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
1. สินค้าโภคภัณฑ์ในหมวด Hard Commodities :
สินค้าโภคภัณฑ์ในหมวด Hard Commodities เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มาจากพื้นโลกและมีอยู่ทางกายภาพ ประกอบด้วย:
• โลหะ: โลหะมีค่า เช่น ทอง เงิน แพลทินัม และโลหะอุตสาหกรรม เช่น ทองแดง อลูมิเนียม และนิกเกิล
• ทรัพยากรพลังงาน: น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และผลิตภัณฑ์พลังงานอื่นๆ ที่ใช้สำหรับการผลิตไฟฟ้า การทำความร้อน และการขนส่ง
• แร่ธาตุ: แร่เหล็ก ยูเรเนียม สังกะสี ตะกั่ว และแร่ธาตุอื่นๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ
2. สินค้าโภคภัณฑ์ในหมวด Soft commodities :
เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มักปลูกหรือผลิต ประกอบด้วย :
• ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร : ธัญพืช เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าว ถั่วเหลือง และพืชผลอื่นๆ ที่ใช้ในการผลิตอาหาร
• ปศุสัตว์และเนื้อสัตว์: โค สุกร สัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์เหล่านี้ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู และสัตว์ปีก
• สินค้าSoft : กาแฟ โกโก้ น้ำตาล ฝ้าย และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและสิ่งทอ
อะไรคือปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์?
มีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่:
1. พลวัตของอุปสงค์และอุปทาน :
การเปลี่ยนแปลงในการผลิตทั่วโลก เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และสภาพอากาศอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานของสินค้าโภคภัณฑ์
2. ตัวบ่งชี้หรือสัญญาณทางเศรษฐกิจ :
การเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
3. ความผันผวนของสกุลเงิน:
เนื่องจากสินค้าโภคภัณฑ์มักซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ความผันผวนของค่าสกุลเงินจึงอาจส่งผลต่อราคาได้
4. นโยบายและกฎระเบียบของรัฐบาล:
นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการค้า เงินอุดหนุน ภาษี และกฎระเบียบอาจส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์
5. เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์:
ความไม่มั่นคงทางการเมือง ความขัดแย้ง และการคว่ำบาตรสามารถขัดขวางห่วงโซ่อุปทานของสินค้าโภคภัณฑ์และส่งผลกระทบต่อราคา
สินค้าโภคภัณฑ์ CFD ทำงานอย่างไร?
สินค้าโภคภัณฑ์ CFD เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์เก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง นี่คือวิธีการทำงานของสินค้าโภคภัณฑ์ CFD:
1. การจัดทำสัญญา:
• เมื่อเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD คุณจะทำสัญญากับโบรกเกอร์หรือผู้ให้บริการ
• สัญญาแสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิดของสินค้าโภคภัณฑ์
2. ตำแหน่ง Long (ซื้อ) และ Short (ขาย) :
• คุณสามารถเปิดสถานะ Longซื้อ (buy) หรือ Shortขาย (sell) ในสินค้าโภคภัณฑ์ CFD ได้
• หากคุณคาดว่าราคาจะสูงขึ้น คุณจะเปิดสถานะ Long โดยมีเป้าหมายที่จะทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคา
• หากคุณคาดว่าราคาจะลดลง คุณจะเปิดสถานะ Short โดยมีเป้าหมายที่จะทำกำไรจากราคาที่ลดลง
3. การเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา:
• เป้าหมายของการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD คือการเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา
• หากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่คุณคาดการณ์ไว้ คุณสามารถสร้างกำไรได้
• ในทางกลับกัน หากราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับตำแหน่งของคุณ คุณอาจต้องขาดทุน
4. เลเวอเรจเทรดดิ้ง :
• การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD มักต้องใช้เลเวอเรจ
• เลเวอเรจใน CFD สินค้าโภคภัณฑ์ช่วยให้คุณควบคุมสถานะที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนจำนวนน้อยลง
5. มาร์จิ้นใน CFD สินค้าโภคภัณฑ์ :
• มาร์จิ้นหมายถึงเงินทุนขั้นต่ำที่จำเป็นในการเริ่มต้นสถานะ CFD ในบัญชีของคุณ
• โดยทั่วไปแล้ว โบรกเกอร์มีข้อกำหนดด้านมาร์จิ้นสองประเภทสำหรับบัญชีของคุณ :
I. มาร์จิ้นเงินฝาก (Deposit margin)
Ii.หลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance margin)
6. ไม่มีส่วนความเป็นเจ้าของ :
• เมื่อเปรียบเทียบกับ การเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ใน รูปแบบเดิม สินค้าโภคภัณฑ์ CFD ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง
• คุณกำลังเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเท่านั้น
7. ความยืดหยุ่นในการเทรด :
• สินค้าโภคภัณฑ์ CFD ให้ความยืดหยุ่นในการเทรดในสภาวะตลาดต่างๆ
• คุณสามารถใช้ประโยชน์จากทั้งราคาที่เพิ่มขึ้นและลดลง ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และกลยุทธ์การเทรดของคุณ
8. การบริหารความเสี่ยง :
• การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการ เทรดสินค้าโภคภัณฑ์ CFD
• คุณสามารถใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น stop-loss คำสั่งหยุดการขาดทุน เพื่อจำกัดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับตำแหน่งของคุณ
• จำเป็นต้องกำหนดระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมและปฏิบัติตามแผนการจัดการความเสี่ยงของคุณ
9. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย:
• เมื่อเทรด สินค้าโภคภัณฑ์ CFD คุณอาจพบค่าธรรมเนียมและต้นทุน รวมถึงสเปรด (ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อbuyและราคาขาย sell prices) ค่าธรรมเนียมทางการเงินข้ามคืน และค่าคอมมิชชั่น
• อย่าลืมเข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียมและคำนึงถึงกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ CFD
เมื่อทำการ เทรด CFD สินค้าโภคภัณฑ์ เทรดเดอร์อาจต้องเผชิญกับค่าธรรมเนียมบางอย่าง ซึ่งรวมถึง:
• สเปรด Spread :
ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย (buying and selling prices)ซึ่งแสดงถึงต้นทุนในการเทรด
• ระบบจัดการการเงินข้ามคืน Overnight financing :
หากตำแหน่งถูกถือข้ามคืน นักเทรดอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมทางการเงินหรือได้รับเงินปันผล ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ให้บริการ CFD
• คอมมิชชั่น Commission:
โบรกเกอร์บางรายคิดค่าคอมมิชชั่นจากการเทรดแต่ละครั้ง
เทรดสินค้าโภคภัณฑ์ได้อย่างไร?
เพื่อเทรดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
1. เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้:
เลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงพร้อมสามารถเข้าถึง CFD สินค้าโภคภัณฑ์ที่หลากหลาย ราคาที่แข่งขันได้ และแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่าย
2. ดำเนินการวิเคราะห์ตลาด:
• ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น
• ตรวจสอบปัจจัยอุปสงค์และอุปทาน วิเคราะห์แผนภูมิราคา และใช้ตัวบ่งชี้เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูล
3. พัฒนาแผนการซื้อขาย:
• กำหนดจุดเข้าและออก การยอมรับความเสี่ยง และขนาดตำแหน่ง
• ยึดมั่นในแผนของคุณและหลีกเลี่ยงการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์
4. ฝึกการบริหารความเสี่ยง:
• เพื่อบรรเทาความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ให้ใช้คำสั่งหยุดการขาดทุน stop-loss และใช้คำสั่งทำกำไรเพื่อปกป้องผลกำไร take-profit
• ประเมินและปรับเปลี่ยนแนวทางการบริหารความเสี่ยงของคุณอย่างสม่ำเสมอ
5. ติดตามและปรับเปลี่ยน:
ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับตลาด ติดตามการเทรดของคุณ และเตรียมพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ของคุณตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
แนวคิดสุดท้าย
CFD สินค้าโภคภัณฑ์เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์มีส่วนร่วมในการเก็งกำไรจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์จริง
เมื่อมีส่วนร่วมในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ CFD สิ่งสำคัญคือต้องเลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ เช่น XS.com ซึ่งให้สามารถเข้าถึง CFD สินค้าโภคภัณฑ์ที่หลากหลายและสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ ขอให้มีความสุขในการซื้อขาย!
สารบัญ
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง