ตลาด
บัญชี
แพลตฟอร์ม
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือ
เขียนโดย XS Editorial Team
อัปเดตแล้ว 21 กุมภาพันธ์ 2025
การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้น (Compound Trading) เป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดนำกำไรที่ได้รับกลับมาลงทุนซ้ำเพื่อเพิ่มปริมาณเงินทุนที่ทำงานอยู่ในตลาดทำให้เกิดวัฏจักรการเติบโตที่สามารถสร้างผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเวลาผ่านไป
บทความนี้จะอธิบายพื้นฐานของการเทรดด้วยการนำกำไรมาทบต้น รวมถึงวิธีการทำงาน ข้อดี และการเปรียบเทียบกับวิธีการเทรดอื่นๆ
การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นเป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดเดอร์นำกำไรที่ได้รับกลับมาลงทุนซ้ำเพื่อเพิ่มยอดเงินในพอร์ตเมื่อเวลาผ่านไปโดยใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
การนำกำไรมาทบต้นอย่างต่อเนื่องช่วยให้นักเทรดเพิ่มขนาดเงินทุนและสามารถเข้าทำการเทรดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การเติบโตของพอร์ตที่รวดเร็วขึ้น
การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นสามารถปรับใช้ได้กับช่วงเวลาการทบต้นที่แตกต่างกัน (รายวันหรือรายเดือน) โดยแต่ละวิธีมีข้อดีและความเสี่ยงที่แตกต่างกันทำให้นักเทรดเดอร์สามารถปรับสมดุลระหว่างการเติบโตและการบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นเรื่อยๆ (Compound Trading) เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการนำกำไรที่ได้รับกลับมาลงทุนซ้ำเพื่อเพิ่มยอดเงินในพอร์ตเมื่อเวลาผ่านไปโดยใช้หลักการของดอกเบี้ยทบต้น
ต่างจากการเทรดแบบดั้งเดิมที่นักเทรดเดอร์อาจถอนกำไรออกเป็นประจำการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นจะนำกำไรจากแต่ละการเทรดกลับไปเพิ่มในทุนตั้งต้น ซึ่งช่วยให้เงินทุนเติบโตและสามารถเข้าเทรดด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องฝากเงินใหม่
พลังของดอกเบี้ยทบต้นในตลาดการเงินผลของการทบต้นมีความสำคัญอย่างมากในโลกของการเทรด เพราะทุกการเทรดที่ประสบความสำเร็จจะต่อยอดจากกำไรก่อนหน้าส่งผลให้พอร์ตเติบโตอย่างรวดเร็วขึ้น
ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดทำกำไรจากการเทรด กำไรนั้นจะถูกนำไปเพิ่มในเงินทุนตั้งต้นของการเทรดครั้งถัดไปทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในรอบถัดไป
กระบวนการนี้เป็นหัวใจสำคัญของการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นและสามารถนำไปใช้กับตลาดต่างๆ เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น และคริปโตเคอร์เรนซี
นอกจากนี้การใช้เครื่องคำนวณดอกเบี้ยทบต้นสำหรับการเทรดสามารถช่วยให้นักเทรดประเมินการเติบโตของพอร์ตในระยะยาวได้ โดยอิงจากช่วงเวลาการทบต้นที่แตกต่างกัน เช่น การทบต้นรายวันหรือรายเดือน
เมื่อพูดถึงการทบต้นความถี่มีความสำคัญการทบต้นรายวันหมายถึงการนำกำไรจากการเทรดแต่ละวันมาลงทุนซ้ำในวันถัดไป
ในทางกลับกันการทบต้นรายเดือนใช้แนวทางที่ช้ากว่าโดยเพิ่มกำไรเฉพาะเมื่อสิ้นเดือน
การทบต้นรายวันสามารถทำให้บัญชีเติบโตเร็วขึ้นแต่ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นเพราะแม้แต่การขาดทุนเล็กน้อยก็อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนที่ทบต้น
ในขณะที่การทบต้นรายเดือนปลอดภัยกว่าโดยทั่วไปโดยเฉพาะสำหรับนักเทรดมือใหม่
พลังของการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นอยู่ที่ศักยภาพในการเติบโตแบบทวีคูณ เมื่อการเทรดมีกำไรเงินทุนหลัก (trading capital) จะเพิ่มขึ้นและผลตอบแทนจากการเทรดก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เมื่อเวลาผ่านไป “snowball effect” นี้สามารถเปลี่ยนกำไรเล็กๆ ให้กลายเป็นผลตอบแทนที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากได้กำไร 5% จากเงินทุน $1,000 จะได้กำไร $50 แต่หากนำ $1,050 ไปทบต้นในการเทรดครั้งถัดไปแทนที่จะใช้แค่ $1,000 ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละรอบของการทำกำไร
ดอกเบี้ยทบต้นคือดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินต้นเดิมรวมถึงดอกเบี้ยที่ได้รับมาก่อนหน้านี้
ในการเทรดหมายความว่าทุกกำไรที่นำกลับไปลงทุนซ้ำจะสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมทำให้พอร์ตเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามหลักการของการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้น
การคำนวณดอกเบี้ยทบต้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความถี่ของการทบต้นยิ่งทบต้นบ่อยเท่าไรการเติบโตของเงินทุนก็จะเร็วขึ้น
การใช้เครื่องคำนวณดอกเบี้ยทบต้นสำหรับการเทรดสามารถช่วยให้นักเทรดเดอร์คาดการณ์ผลตอบแทนที่เป็นไปได้ในแต่ละสถานการณ์ เช่น การทบต้นรายเดือนหรือรายวัน
การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นทำงานโดยการนำกำไรจากการเทรดที่ประสบความสำเร็จกลับไปเพิ่มในยอดเงินในบัญชีเพื่อให้เงินทุนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามหลักการของดอกเบี้ยทบต้น
ทำการเทรด: เริ่มต้นด้วยการเทรดครั้งแรกตามกลยุทธ์ของคุณ
นำกำไรกลับมาทบต้น: หลังจากเทรดได้กำไร ให้นำกำไรนั้นกลับไปเพิ่มในยอดเงินในบัญชี
เพิ่มขนาดการเทรดเมื่อเวลาผ่านไป: เมื่อยอดเงินทุนเพิ่มขึ้นคุณสามารถเข้าทำการเทรดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร
ทำซ้ำกระบวนการ: ทุกครั้งที่นำกำไรกลับมาทบต้นเงินทุนของคุณจะเติบโตขึ้นและเกิดเอฟเฟกต์ทบต้น
ตัวอย่างเช่น กลยุทธ์การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นสำหรับมือใหม่อาจเริ่มจากการนำกำไรบางส่วนกลับไปทบต้นก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจจากนั้นค่อยๆ ขยับไปสู่การทบต้นเต็มจำนวนเมื่อมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น
การนำกำไรมาทบต้นในการเทรดมีข้อดีหลายประการโดยเฉพาะสำหรับนักเทรดเดอร์ที่มุ่งเน้นการเติบโตในระยะยาว:
เร่งการสะสมความมั่งคั่ง: การทบต้นช่วยให้นักเทรดสามารถเพิ่มยอดเงินในบัญชีได้เร็วขึ้น
เพิ่มขนาดการเทรดได้มากขึ้น: การนำกำไรกลับมาลงทุนซ้ำช่วยเพิ่มอำนาจซื้อในการเทรดครั้งถัดไปทำให้มีโอกาสสร้างผลกำไรที่สูงขึ้น
ลดการพึ่งพาเงินทุนใหม่: นักเทรดเดอร์สามารถเพิ่มพอร์ตได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องฝากเงินเพิ่ม
เสริมสร้างความสามารถในการทำกำไรระยะยาว: การทบต้นสามารถช่วยให้พอร์ตเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเวลาผ่านไปโดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับกลยุทธ์การเทรดที่มีความสม่ำเสมอ
การปรับกลยุทธ์การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นให้เหมาะกับทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลงสามารถช่วยปกป้องกำไรและเพิ่มโอกาสในการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพนี่คือแนวทางสำหรับแต่ละสภาวะตลาด:
เพิ่มความถี่ในการทบต้น: ในตลาดขาขึ้นนักเทรดเดอร์สามารถใช้การทบต้นบ่อยขึ้น เช่น รายสัปดาห์หรือรายวันเพื่อใช้ประโยชน์จากการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เลือกสินทรัพย์ที่มีศักยภาพเติบโตสูง: เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตดี เช่น หุ้นเทคโนโลยีหรือคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อเพิ่มผลตอบแทน
เพิ่มขนาดการเทรดอย่างค่อยเป็นค่อยไป: เมื่อบัญชีเติบโตขึ้นการเพิ่มขนาดการเทรดอย่างเป็นสัดส่วนสามารถช่วยขยายกำไรในตลาดขาขึ้นได้
ให้ความสำคัญกับการรักษาเงินทุน: ลดความถี่ของการทบต้น (เช่น รายเดือน) เพื่อลดความเสี่ยงในการนำกำไรไปลงทุนซ้ำในช่วงตลาดขาลง
เลือกสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง: เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพมากขึ้น เช่น หุ้นปันผลหรือพันธบัตรเพื่อลดความผันผวนและช่วยให้พอร์ตเติบโตอย่างมั่นคง
ใช้คำสั่ง Stop-Loss: กำหนดจุด Stop-Loss เพื่อรักษากำไรที่ได้จากการทบต้นและป้องกันเงินทุนจากการขาดทุนในช่วงตลาดขาลง
เมื่อปรับกลยุทธ์การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาดนักเทรดเดอร์สามารถ ปกป้องกำไรในตลาดขาลงและเพิ่มโอกาสเติบโตในตลาดขาขึ้น วิธีนี้ช่วยให้การทบต้นเป็นกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้ได้กับทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ
การเปรียบเทียบการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นกับวิธีการเทรดแบบอื่นช่วยให้เห็นทั้งจุดแข็งและความท้าทายของแต่ละกลยุทธ์
การเทรดรายวัน (Day Trading) คือการเข้าและออกจากหลายออเดอร์ภายในวันเดียวโดยปิดทุกตำแหน่งก่อนสิ้นสุดวันเทรด
นักเทรดเดอร์รายวันอาจทำกำไรสูงในระยะสั้นแต่ไม่สามารถนำกำไรไปทบต้นแบบเรียลไทม์ได้เหมือนนักเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้น
การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นเป็นกลยุทธ์ในระยะยาวมากกว่าการทำกำไรรายวันโดยการนำกำไรกลับไปเพิ่มทุนเพื่อให้สามารถขยายพอร์ตได้เรื่อยๆ กลยุทธ์นี้มักจะมีความเครียดน้อยกว่าเนื่องจากไม่ต้องเผชิญกับความผันผวนสูงและการตัดสินใจรวดเร็วแบบการเทรดรายวัน
การเทรดแบบสวิง (Swing Trading) เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการจับการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงหลายวันหรือหลายสัปดาห์โดยมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจากแนวโน้มตลาดในระยะกลาง
ทั้งการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นและการเทรดแบบสวิงสามารถเสริมกันได้หากนักเทรดสวิงนำกำไรที่ได้มาทบต้นเป็นระยะๆ
อย่างไรก็ตามการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยอาศัยพลังของเงินทุนสะสมขณะที่การเทรดแบบสวิงมุ่งเน้นไปที่การจับจังหวะเข้าและออกของแต่ละออเดอร์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคา
แผนการลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น กองทุนรวม หรือบัญชีเกษียณมักใช้หลักการดอกเบี้ยทบต้นแต่เป็นรูปแบบการลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องจัดการบ่อย
การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นมีความแอคทีฟมากกว่า โดยเกี่ยวข้องกับการเทรดบ่อยและการนำกำไรกลับมาลงทุนซ้ำ ในขณะที่แผนการลงทุนแบบดั้งเดิมเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้เร็วกว่าแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้น
กลยุทธ์การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นมีตั้งแต่แนวทางอนุรักษ์นิยมไปจนถึงแนวทางเชิงรุกโดยแต่ละแบบมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน
การทบต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป (Slow and Steady Compounding): กลยุทธ์แบบอนุรักษ์นิยม โดยนำกำไรเพียงบางส่วนจากแต่ละการเทรดกลับไปลงทุนซ้ำซึ่งช่วยให้เงินทุนเติบโตอย่างมั่นคงในขณะที่ยังคงบริหารความเสี่ยงได้ดี
การทบต้นแบบเชิงรุก (Aggressive Compounding): นักเทรดนำกำไรทั้งหมดกลับไปทบต้นเพื่อเร่งการเติบโตของพอร์ตอย่างรวดเร็วกลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงสูงแต่สามารถให้ผลตอบแทนที่เร็วกว่า
การทบต้นแบบบางส่วน (Partial Compounding): นักเทรดเดอร์เลือกนำกำไรเพียงบางส่วนกลับไปทบต้นเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและการเติบโตเหมาะสำหรับนักเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการลดความเสี่ยง
การทบต้นแบบกระจายพอร์ต (Compounding with Diversification): การใช้สินทรัพย์หลายประเภท (เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น และคริปโต) ช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างผลกระทบจากการทบต้นที่สมดุลในหลากหลายตลาด
แม้ว่าการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาดังนี้:
ความผันผวนของตลาด: ผลของการทบต้นสามารถทำงานในทางตรงกันข้ามได้ในตลาดที่มีความผันผวนสูง การขาดทุนอาจลดเงินทุนที่ทบต้นไปอย่างมากทำให้การเติบโตช้าลงหรืออาจพลิกกลับเป็นขาดทุน
การเทรดมากเกินไปและการเทรดตามอารมณ์: การทบต้นบ่อยๆ อาจทำให้นักเทรดมีแนวโน้ม Overtrade หรือทำการตัดสินใจแบบใช้อารมณ์ โดยเฉพาะเมื่อกำไรไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน: การทบต้นขึ้นอยู่กับการนำกำไรกลับไปลงทุนต่อแต่ความผันผวนของตลาดทำให้ผลตอบแทนไม่สามารถคาดการณ์ได้เสมอไป
ความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุน: เนื่องจากกลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการนำกำไรกลับไปลงทุน หากตลาดเกิดการปรับฐานแรงอาจส่งผลกระทบทั้งต่อเงินทุนเริ่มต้นและกำไรที่สะสมไว้
การใช้ เครื่องคำนวณดอกเบี้ยทบต้น สามารถช่วยให้นักเทรดจำลองสถานการณ์ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ และจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
การเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นเปิดโอกาสให้นักเทรดที่ต้องการเพิ่มทุนสามารถนำกำไรกลับไปลงทุนซ้ำ และใช้ประโยชน์จากพลังของการทบต้นเพื่อสร้างการเติบโตแบบทวีคูณแม้แต่นักเทรดเดอร์มือใหม่ก็สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้หากมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับหลักการทบต้นและการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังการใช้กลยุทธ์การทบต้นที่เป็นระบบ เช่น การทบต้นรายเดือนหรือการทบต้นบางส่วนสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโตระยะยาว
เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย
ฟอเร็กซ์ หุ้น และคริปโตเคอร์เรนซีเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเทรดแบบนำกำไรมาทบต้นแต่ ฟอเร็กซ์มักโดดเด่นกว่าเนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและช่วงเวลาการซื้อขายที่ยืดหยุ่นซึ่งสนับสนุนการทบต้นได้บ่อยครั้ง
คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินเพียง $100 แต่หากมีทุนเริ่มต้นที่มากขึ้น (เช่น $500 - $1,000) อาจช่วยเร่งการเติบโตของพอร์ตได้ควรเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้
ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความถี่ในการเทรด อัตราผลตอบแทน และช่วงเวลาการทบต้น โดยทั่วไปหากใช้กลยุทธ์ที่มีวินัยและนำกำไรกลับไปลงทุนต่ออย่างสม่ำเสมอ อาจเห็นการเติบโตที่ชัดเจนภายในไม่กี่เดือน
ใช่แล้วครับ/ค่ะ มีความเสี่ยง โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนนักเทรดเดอร์มือใหม่ควรเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปฝึกฝนการบริหารความเสี่ยงและใช้การทบต้นบางส่วน (Partial Compounding) เพื่อลดความเสี่ยง
แม้ว่าจะสามารถทำได้แต่การทบต้นมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับการเติบโตในระยะยาวหากมีเป้าหมายระยะสั้นอาจใช้วิธีเทรดแบบปกติหรือการลงทุนที่มีระยะเวลาคงที่แทน
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง