ตลาด
บัญชี
แพลตฟอร์ม
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือ
เขียนโดย Itsariya Doungnet
อัปเดตแล้ว 8 เมษายน 2025
การเทรดหุ้น คืออะไร? ได้เงินจริงไหม? เรามีคำตอบมาให้คุณแล้วที่นี่ ฉบับมือใหม่แบบสมบูรณ์ เน้นเข้าใจง่าย เคลียร์ความแตกต่าง และสิ่งที่มือใหม่ต้องรู้ก่อนเทรดทั้งหมด แม้ว่าคุณจะเริ่มเรียนรู้ การเทรดหุ้น ด้วยตัวเอง ก็สามารถเรียนรู้ตามหัวข้อที่เรารวบรวมมาให้คุณไว้ที่นี่ได้เลย
การเทรดหุ้น คืออะไร ก็คือ การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อหวังทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น สามารถเลือกลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวได้
ขั้นตอนเทรดหุ้น เริ่มจาก เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น, ศึกษาข้อมูลบริษัท, ตั้งเป้าหมายการลงทุน, เลือกกลยุทธ์การเทรด, และวิเคราะห์ตลาด
ความเสี่ยงการเทรดหุ้น คือ การที่ราคาหุ้นมีความผันผวนจาก ผลประกอบการบริษัท, สถานการณ์เศรษฐกิจ, ข่าวสาร และอารมณ์ของนักลงทุน
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
การเทรดหุ้น คือ การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนักลงทุนจะซื้อหุ้นจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อหวังทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น คุณสามารถเทรดหุ้นได้ทั้ง ระยะสั้น และ ระยะยาว ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การเทรดของนักลงทุน กำไรที่คุณจะได้รับนั้นมาจากการลงทุนในรูปแบบ เงินปันผล หรือ การเพิ่มมูลค่าหุ้น
การเทรดหุ้น มี 2 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและกลยุทธ์การลงทุน ตลาดหุ้น แต่ละคน แต่ละแบบมีลักษณะลงทุนที่แตกต่างกันออกไป เช่น:
หุ้นสามัญ (Common Stock) เป็นรูปแบบที่ให้คุณมีสิทธิ์ในการออกเสียงการประชุมหุ้นและมีส่วนร่วมทำกำไรบริษัท การจ่ายเงินปันผลจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท แต่อาจมีความผันผวน และ ความเสี่ยงในการลงทุน
หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) เป็นรูปแบบที่ให้สิทธิ์ในการรับเงินปันผลก่อนหุ้นสามัญ แต่ไม่สามารถออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นได้ ราคาของหุ้นแบบนี้จะมีความมั่นคงในการรับเงินปันผลมากกว่า และเสถียรภาพมากกว่าอีกรูปแบบ
หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ หรือ อยากเริ่มต้น การเทรดหุ้น มีทั้งหมด 5 ขั้นตอนเท่านั้น สามารถทำตามขั้นตอนการเทรดหุ้นได้เลย ขั้นตอนที่เราอธิบายจะช่วยให้คุณมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเทรดหุ้น คืออะไร? ขั้นตอนแรกของการ เริ่มเทรดหุ้น คือ การเปิดบัญชีบริการเพื่อซื้อขายหุ้น เช่น XS ที่เป็นเพลตฟอร์มที่ได้รับความน่าเชื่อถือระดับโลก และได้รับรางวัลการเปิดให้บริการมาหลายปี สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประเภทบัญชี และ รูปแบบการเทรดอื่นๆ เพิ่มเติมได้เลย
ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรด จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ เช่น ผลประกอบการ, แนวโน้มการเติบโต, สถานะการเงิน หรือข่าวสารที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกหุ้นได้ว่า หุ้นของบริษัทนั้นๆ คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่
การตั้งเป้าหมายลงทุนช่วยให้คุณรู้ว่า จะเลือกลงทุน ระยะสั้น หรือ ระยะยาว เป้าหมายนี้จะเป็นตัวช่วยตัดสินใจว่า เมื่อไหร่ที่คุณควรซื้อหรือขายหุ้น เช่น หากคุณตั้งเป้าหมายกำไร 10% คุณก็จะรู้ว่า เมื่อไหร่ควรขายหุ้น เพื่อให้ได้กำไร 10%
หากคุณต้องการทำกำไรต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีกลยุทธ์เทรดหุ้น ที่เหมาะกับรูปแบบการเทรด ไม่ว่าจะเป็น การเทรดระยะสั้น (Day Trading) หรือ การเทรดระยะยาว ทั้งนี้แล้วจำเป็นต้องมีการพัฒนากลยุทธ์อยู่ตลอดเวลาด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
ขั้นตอนสุดท้าย คือ การวิเคราะห์ตลาด เพื่อช่วยตัดสินใจเพื่อซื้อขายหุ้น ไม่ว่าจะเป็น การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น การดูกราฟราคาหุ้น หรือปริมาณการซื้อขาย และ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ผลประกอบการบริษัท หรือข่าวสารอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น
ราคาหุ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของบริษัทเพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ที่ส่งผลกระทบทั้ง ระยะสั้น และ ระยะยาว คุณจำเป็นต้องทำความเข้าใจ ปัจจัยราคาหุ้น เพื่อให้ช่วยตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและประสิทธิภาพ
ผลประกอบการบริษัท คือ รายได้ กำไร และการเติบโตธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น การทำกำไรที่สูงกว่าการคาดการณ์ หรือ การที่มีรายได้เพิ่มมาก นี่จะส่งสัญญาณให้ตลาดมองในแง่บวก ทำให้ราคาหุ้นสูงตามไปด้วย แต่ซึ่งหากผลประกอบการแย่กว่าที่คาด นั่นก็หมายถึงหุ้นตก ราคาหุ้นอาจตกลงอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ เศรษฐกิจขยายตัว (Growth) หรือ เศรษฐกิจหดตัว (Recession) ก็จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในหุ้นอย่างมาก หากเศรษฐกิจเติบโต ก็ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น แต่หากเกิดภาวะเศรษฐกิจหดตัว ก็จะทำให้ราคาหุ้นตกลง อีกทั้งก็มีผลกระทบกับอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน
นักลงทุนจำเป็นต้องมีการติดตามข่าวสารตลอดเวลา เพราะการประกาศต่างๆ การเมือง หรือ การประกาศนโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆ มีผลกระทบต่อตลาดได้เช่นกัน ซึ่งหากมีข่าวดีต่ออุตสาหกรรมหรือธุรกิจ ก็จะส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น แน่นอนหากเป็นข่าวลบก็อาจจะทำให้ราคาลงได้เช่นกัน
การตัดสินใจที่ขึ้นตามอารมณ์หลายครั้ง ก็ส่งผลกระทบตรงกันข้ามกับสิ่งที่คาดหวังไว้ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ควรตัดสินใจซื้อขายตามข้อมูลและการวิเคราะห์ตลาดมากกว่า เพราะราคาหุ้นมีความผันผวนสูงมาก เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการตัดสินใจจากอารมณ์ เน้นการตัดสินใจด้วยเหตุผลมากกว่า
การลงทุนหุ้นมีความเสี่ยง เช่นเดียวกับการลงทุนอื่นๆ ซึ่งเราจำเป็นต้องเข้าใจและเตรียมตัวให้พร้อม เพราะราคาหุ้นอาจจะเปลี่ยนไปตามปัจจัยหลายอย่าง ไม่สามารถควบคุมได้ เรามาดูกันต่อเลย:
ความเสี่ยงจากความผันผวนราคา เพราะราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่งั้นก็อาจจะต้องเผชิญกับการขาดทุน ไม่ระมัดระวังการตัดสินใจลงทุน
ความเสี่ยงจากการบริหารของบริษัท เช่น การตัดสินใจทางธุรกิจที่ผิดพลาด หรือ ผู้บริหารที่ขาดความสามารถ ก็อาจทำให้การเติบโตบริษัทชะลอตัว
ความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมือง เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ความเสี่ยงจากการขาดการกระจายความเสี่ยง หมายความว่า ไม่ควรเลือกลงทุนหุ้นเพียงตัวเดียว แต่ควรกระจายการลงทุนไปต่างอุตสาหกรรม หรือ หุ้นตัวอื่นๆ
กลยุทธ์ในการเทรด เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ซึ่งนักลงทุนมือใหม่ก็อาจจะยังไม่เข้าใจว่า เราจะเอากลยุทธ์มาจากไหน และ กลยุทธ์ การเทรดหุ้น คืออะไร เราจะมาอธิบายให้ กลยุทธ์หลักที่คุณสามารถเลือกทำไปปรับใช้ได้ ซึ่งแต่ละหลักการกลยุทธ์นี้ มักจะมีการปรับใช้ตามรูปแบบการเทรด ที่แตกต่างกันออกไป
การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็น การใช้กราฟราคา และ เครื่องมือทางเทคนิค เช่น เส้นแนวโน้ม (Trend lines), ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI), หรือการเคลื่อนที่เฉลี่ย (Moving Averages) เพื่อทำนายทิศทางของราคาหุ้นในอนาคต เครื่องเหล่านี้จะช่วยให้คุณหาจังหวะเข้าซื้อขายได้แม่นยำมากขึ้น
การวิเคราะห์ทางพื้นฐาน คือ การศึกษาข้อมูลทางการเงิน ข่าวสาร เศรษฐกิจ การเมือง และ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เช่น การดูงบการเงิน รายงานผลประกอบการ และการวิเคราะห์อุตสาหกรรมที่บริษัทดำเนินการอยู่ การใช้การวิเคราะห์พื้นฐานช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
การตั้งเป้าหมายซื้อและขาย เป็นสิ่งที่ช่วยควบคุมความเสี่ยงได้ดี นักลงทุนนิยมตั้งจุดที่ต้องการเข้าซื้อและขายล่วงหน้า เช่น การตั้งราคาที่คิดว่าจะซื้อ เมื่อหุ้นตกลงมา หรือ การตั้งเป้าหมายทำกำไร เมื่อตลาดขึ้นไปถึงจุดที่ต้องการ วิธีนี้จะช่วยให้การตัดสินใจแต่ละขั้นตอนให้เป็นไปตามแผน ไม่ต้องเสียเวลาในการลังเล
การตั้งคำสั่ง Stop Loss คือ การตั้งจุดหยุดขาดทุน เพื่อป้องกันการขาดทุนจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอย่างไม่คาดคิด ส่วนคำสั่ง Take Profit คือ การตั้งจุดทำกำไร เมื่อหุ้นขึ้นไปถึงระดับที่ตั้งไว้แล้ว ซึ่งช่วยให้สามารถล็อกกำไรได้ การใช้ทั้งสองคำสั่งนี้ จะช่วยลดความเสี่ยง และ เพิ่มโอกาสในการทำกำไร
การเทรดหุ้น เป็นหนึ่งในการลงทุนที่นิยมมาก เนื่องจากสามารถทำกำไรได้ทั้ง ระยะสั้น และ ระยะยาว แต่การลงทุนก็มีทั้ง ข้อดีและข้อเสีย ที่คุณควรพิจารณาก่อนลงทุน
ข้อดี
ข้อเสีย
ทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น
เสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้น
ได้รับเงินปันผลจากหุ้น
ต้องใช้เวลาและความรู้ในการวิเคราะห์
เข้าถึงข้อมูลการลงทุนได้ง่าย
อาจเกิดความเครียดจากการตัดสินใจผิด
ยืดหยุ่นในการลงทุนทั้งระยะสั้นและยาว
การเทรดหุ้น คืออะไร ก็คือการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป็นการลงทุนที่มุ่งหวังทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น ซึ่งสามารถทำได้ทั้ง ระยะสั้น และ ระยะยาว การลงทุนหุ้นสามารถทำกำไรจากเงินปันผลและการเพิ่มมูลค่าหุ้น แต่ก็มีความเสี่ยงจากความผันผวนและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อธุรกิจ มือใหม่ควรศึกษา และ เข้าใจขั้นตอนการเปิดบัญชี ซื้อขายหุ้น, การวิเคราะห์ข้อมูล, การวางแผนการลงทุน, และการเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร
เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย
การเทรดหุ้นทำกำไรได้จริง แต่ก็มีความเสี่ยงจากการผันผวนของราคา และการตัดสินใจที่ผิดพลาด ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนได้เช่นกัน
การเทรดหุ้นระยะยาว คือ การลงทุนหุ้นของบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยคุณจะต้องถือหุ้นไว้เป็นระยะเวลานาน เพื่อหวังผลตอบแทนจากการเพิ่มมูลค่า และเงินปันผล
เล่นหุ้นเน้นการลงทุนระยะยาว ไม่คำนึงถึงความผันผวนระยะสั้น ส่วนการเทรดหุ้น เน้นการซื้อขายระยะสั้นเพื่อตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแต่ละวัน
การเทรดหุ้น เริ่มต้นได้ตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขโบรกเกอร์แต่ละราย และประเภทบัญชีที่เลือก
เริ่มจากการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ ศึกษาข้อมูลหุ้น และแนวโน้มตลาด ก่อนตั้งเป้าหมายการลงทุน และกลยุทธ์การเทรด ที่เหมาะสมกับตัวเอง
SEO Content Writer
อิสสริยา ดวงเนตร เป็นนักเขียนคอนเท้นต์ SEO ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้ เรื่องตลาดเทรด และ การลงทุน เน้นสไตล์การเขียนที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเนื้อหาความรู้จัดเต็ม พร้อมกับการผสมผสานเทคนิค SEO ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความได้ง่าย อย่าลืมติดตามกันนะคะ
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง